Sikadur®-42 MP Slow HC TH

อีพ็อกซี่เรซิ่น

24 เดือน นับจากวันที่ผลิต หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย

จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง ไม่โดนแสงแดดโดยตรง ที่อุณหภูมิระหว่าง +20 °C และ +30 °C.

~2,130 กก./ม³ (A+B+C)

ส่วนประกอบ A : B : C = 5 : 1 : 30 โดยน้ำหนัก (มาตรฐาน)
ของแข็ง / ของเหลว = 5 : 1 โดยน้ำหนัก

ความลึกเกร้าท์น้อยที่สุด: 10 มม.
ความลึกเกร้าท์มากที่สุด: 150 มม.

^{* ไม่มีการลดฟิลเลอร์; ใช้กับอัตราส่วนผสม A : B : C = 5 : 1 : (30–36)}

Sikadur®-42 MP Slow HC TH ต้องใช้งานที่อุณหภูมิระหว่าง +20 °C และ +30 °C
ปรับสภาพวัสดุโดยเก็บไว้ที่อุณหภูมินี้เป็นเวลา 48 ชั่วโมงก่อนใช้งาน

ต่ำสุด +20 °C / สูงสุด +40 °C

อุณหภูมิพื้นผิวระหว่างทำงานไม่ต่ำกว่า 3 °C เหนือจุดน้ำค้างเพื่อหลีกเลี่ยงการกลั่นตัวเป็นหยดน้ำ

ต่ำสุด +20°C min./ สูงสุด +40°C

≤ 4% pbw

(200 g, adiabatic testing)

ระยะคงสภาพหลังการผสมจะเริ่มต้นเมื่อเรซินและสารเร่งปฎิกิริยาถูกผสมเข้าด้วยกัน โดยระยะคงสภาพหลังการผสมจะสั้นลง เมื่ออุณหภูมิสูงและนานขึ้นเมื่ออุณหภูมิต่ำ ปริมาณการผสมที่มากขึ้นจะมีผลทำให้ระยะคงสภาพหลังการผสมสั้นลง เพื่อให้มีระยะเวลาในการนำไปใช้งานนานขึ้นที่อุณหภูมิสูง วัสดุที่ผสมแล้วอาจจะต้องแบ่งออกเป็นส่วนๆ หรืออีกวิธีหนึ่ง คือการทำให้ส่วนประกอบ A, B และ C เย็นตัวลงก่อนผสมเข้าด้วยกัน (เมื่ออุณหภูมิในการทำงานสูงกว่า +20°C เท่านั้น)

ซีเมนต์มอร์ต้าและคอนกรีตต้องมีอายุมากกว่า 28 วัน (ขึ้นกับความต้องการค่ารับกำลังขั้นต่ำสุด) ตรวจสอบค่ารับกำลังของพื้นผิว (คอนกรีต, หินธรรมชาติ ฯลฯ) พื้นผิววัสดุ (ทุกชนิด) ต้องสะอาด แห้ง และปราศจากสิ่งปนเปื้อน เช่น ฝุ่น น้ำมัน จาระบี สารแต่งผิว และสารเคลือบผิว ฯลฯ พื้นผิวเหล็กต้องกำจัดสนิมออก ให้ได้ตามมาตรฐาน Sa 2.5 พื้นผิวต้องสะอาด แข็งแรง แห้ง หรือชื้นเล็กน้อย ปราศจากเศษซีเมนต์ ไม่มีน้ำขัง และไม่มีน้ำแข็งเกาะ

คอนกรีต มอร์ต้า หิน:
พื้นผิวต้องแห้ง สะอาด ปราศจากฝุ่น คราบจาระบี น้ำมัน น้ำขัง วัสดุเคลือบผิวและเศษหลุดร่อนต้องกำจัดออก เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เปิดโล่ง และปราศจากสารปนเปื้อน

เหล็ก:
ต้องทำความสะอาดและจัดเตรียมตามมาตรฐานคุณภาพเทียบเท่า SA 2.5 เช่น การทำความสะอาดด้วยการพ่น หลีกเลี่ยงการเกิดสภาวะการควบแน่นของน้ำ พื้นผิวและแผ่นรองฐานต้องสะอาดและเรียบ เพื่อให้ผลที่ดีที่สุดพื้นผิวจะต้องแห้ง กำจัดฝุ่น คราบน้ำมัน จาระบี สารบ่มผิว สารเพิ่มความอิ่มตัว แวกซ์ สารปนเปื้อน สารเคลือบ และแยกส่วนวัสดุด้วยเครื่องมือกล เช่น การสกัดด้วยสิ่ว การทำความสะอาดด้วยการพ่น เป็นต้น หลุมยึดหรือสลักเกลียวต้องไม่มีน้ำขัง เทเกราท์ทันทีเพื่อป้องกันการทำปฏิกิริยากับอากาศซ้ำ / การก่อตัวของสนิม

เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
เมื่อบริเวณเทเกราท์หรืออุปกรณ์ที่ไวต่อการสั่นสะเทือน แนะนำให้เตรียมพื้นผิวสัมผัสตามแนวทางปฏิบัติที่แนะนำของ สถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริกาฉบับล่าสุด 686“การออกแบบระบบติดตั้งและการติดตั้งเครื่องจักร”, บทที่ 5

ชุดผสม:
ทำการผสมส่วนประกอบ A และ B ลงในถังส่วนประกอบ A ประมาณ 30-60 วินาที โดยใช้ใบผสมที่ประกอบติดกับสว่านที่รอบความเร็วต่ำ (300-450 รอบต่อนาที) ระวังเกิดฟองอากาศระหว่างการผสม ทำการผสมจนกระทั่งวัสดุเป็นเนื้อเดียวกันทั้งสีและความหนืด เทอีพ็อกซีที่ผสมเสร็จแล้วลงในภาชนะผสมที่เหมาะสม ค่อยๆ เติมส่วนประกอบ C (เพื่อให้อากาศเข้าไปในส่วนผสมน้อยที่สุด) โดยขึ้นอยู่กับความต้องการการไหลตัว (สังเกตอัตราส่วนผสมที่ถูกต้อง) และผสมจนกระทั่งได้เนื้อเดียวกัน (ประมาณ 3 นาที)

ผสมเฉพาะปริมาณที่ต้องการใช้ภายในระยะเวลาคงสภาพหลังการผสม ห้ามผสมส่วนประกอบ A และ B โดยยังไม่เติมส่วนประกอบ C (เนื่องจากปฏิกิริยาคายความร้อนระหว่าง A และ B จะก่อให้เกิดความร้อนเพิ่มขึ้น) ปล่อย Sikadur®-42 MP Slow HC TH ให้เซ็ตตัวในภาชนะผสมเป็นเวลา 2-3 นาที จนกว่าฟองอากาศส่วนใหญ่จะหายไป

กวาดเกราท์ส่วนเกินลงในภาชนะที่เหมาะสม เพื่อนำไปทิ้งก่อนจะแข็งตัว การกำจัดให้สอดคล้องกับกฎหมายข้อบังคับท้องถิ่น วัสดุที่ไม่บ่มตัวสามารถกำจัดออกโดยใช้ Sika Colma Cleaner ส่วนวัสดุที่บ่มตัวแล้วสามารถกำจัดออกได้ด้วยวิธีการทางกลเท่านั้น