2453: จุดเริ่มต้นของซิก้า

รากฐานของซิก้า

Kaspar Winkler ได้รับแรงผลักดันจากจิตวิญญาณการเป็นผู้ประกอบการ เขาจึงตัดสินใจก่อตั้งและทำการวางศิลาฤกษ์บริษัทในปี พ.ศ. 2453 เขาได้คิดค้นผลิตภัณฑ์ Sika-1 น้ำยาผสมคอนกรีตที่มีคุณสมบัติแห้งตัวเร็วและกันซึมสำหรับคอนกรีตหรือมอร์ตาร์ ใช้ในการก่อสร้างอุโมง Gotthard เพื่อเป็นทางรถไฟเชื่อมต่อระหว่างยุโรปเหนือและยุโรปใต้


นวัตกรรมที่ตอบสนองความต้องการ

Kaspar Winkler เล็งเห็นความต้องการน้ำยาผสมคอนกรีตที่ก้าวล้ำของเขาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เขาจึงก่อตั้งบริษัทย่อยไปทั่วทุกมุมโลก และภายในปี 1930 ซิก้ามีบริษัทในเครือเป็นจำนวนทั้งหมด 15 บริษัท ในทวีปยุโรป ทวีปอเมริกา ประเทศอาเจนตินา ประเทศบราซิล และประเทศญี่ปุ่น ขยายธุรกิจตลาดเคมีภัณฑ์เพื่อการก่อสร้าง

Kaspar Winkler, founder of Sika
รูปภาพ: Kaspar Winkler, founder of Sika
เหตุการณ์สำคัญระหว่างปี พ.ศ. 2453 - 2478: การฝ่าอุปสรรคในช่วงต้น
งานป้องกันการรั่วซึมในอุโมงค์ฮัดสัน
รูปภาพ: งานป้องกันการรั่วซึมในอุโมงค์ฮัดสัน

หลังจากปีแรกที่ยากลำบาก ความก้าวหน้าก็มาถึงเมื่อเมื่อการรถไฟสวิสเซอร์แลนด์ประสบความสำเร็จในการทดลองใช้น้ำยากันซึมของซิก้ามาในการก่อสร้างอุโมงค์ทางรถไฟ Gotthard ทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว กลายเป็นส่วนประกอบที่จำเป็นสำหรับงานสร้างทางรถไฟระบบไฟฟ้า ในปีต่อ ๆ มา การรถไฟสวิสเซอร์แลนด์ได้ก่อสร้างอุโมงค์รถไฟอีก 67 แห่ง โดยใช้น้ำยากันซึมของซิก้า

การขยายธุรกิจ

หลังจากความสำเร็จนี้ Kaspar Winkler ได้พยายามสร้างศักยภาพในต่างประเทศ
เขาตระหนักว่าเขาต้องการผู้จัดการที่มีประสบการณ์ระหว่างประเทศ และว่าจ้างผู้อํานวยการฝ่ายปฏิบัติการต่างประเทศ ซึ่งต่อมาเป็นผู้ก่อตั้งสาขาในอังกฤษ อิตาลี และฝรั่งเศส ระหว่างปี 1926-1928

อย่างไรก็ตามผู้อำนวยการไม่ต้องการเป็นเพียงแค่พนักงานเท่านั้น แต่เขาต้องการที่จะเป็นหุ้นส่วน ข้อตกลงที่จัดทำขึ้นอย่างชาญฉลาดทำให้บริษัทไม่สามารถไล่ผู้อำนวยการคนดังกล่าวออกได้ และมีการฟ้องร้องกันเป็นเวลาหลายปี จนกระทั่งบริษัทถูกแบ่งออกอีกครั้งในปี 1932 โดยอนุญาโตตุลาการ

ในปี 1928 Fritz Schenker บุตรเขยของ Winkler ได้เข้ามาร่วมเป็นคณะกรรมการบริหารของบริษัท และขยายธุรกิจไปทั่วโลก โดยปี 1935 ซิก้ามีสาขาอยู่ในยุโรป อเมริกาใต้ และเอเซีย

เหตุการณ์สำคัญระหว่างปี พ.ศ. 2478 - 2513: ยุคเฟื่องฟูและวิกฤต
Fritz Schenker (third from right) on a visit in Santiago de Chile, October 1959
รูปภาพ: Fritz Schenker (ที่สามจากขวา)

ช่วงเวลาที่ยากลำบากระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง แต่บริษัทซิก้ายังประสบความสําเร็จในการทํางานของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง

การเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในคณะกรรมการผู้บริหารของ Romuald Burkard รุ่นที่สองเริ่มต้นขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด์ โดยระหว่างที่ Burkard เข้ามาทำงานในปี 1953จนกระทั่งวันที่ Fritz Schenker ซึ่งมีศักดิ์เป็นพ่อภรรยาของเขาเสียชีวิตในปี 1971เขารับช่วงหน้าที่ในการเป็นผู้นำกลุ่มบริษัทแทน ซึ่งภายหลังซิก้าได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเศรษฐกิจมีความร้อนแรงเกินไปในช่วงปี พ.ศ. 2503-2512 ทำให้ซิก้าต้องเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ สิ่งที่ซิก้าทำได้มีเพียงประคองตัวให้พ้นจากภาวะล้มละลายเท่านั้น

เหตุการณ์สำคัญระหว่างปี พ.ศ. 2513 - 2533 : ธุรกิจใหม่และจิตวิญญาณของซิก้า
The adhesive Sikaflex was used for the windscreen of the BMW 7 series of the late 80's
รูปภาพ: The adhesive Sikaflex was used for the windscreen of the BMW 7 series of the late 80's

ภาวะถดถอยอย่างรุนแรงในช่วง 70s ทําให้จิตวิญญาณของซิก้าแข็งแกร่งขึ้น สิ่งนี้ทำให้พนักงานรู้สึกถึงความรับผิดชอบต่องานและบริษัทโดยรวม รวมทั้งทัศนคติที่ดีที่พนักงานมีต่อบริษัท ซิก้าจิตวิญญาณของซิก้ายังคงสร้างดีเอ็นเอของบริษัทจนถึงทุกวันนี้

ด้วยกาวอเนกประสงค์ Sikaflex ซิก้าเปิดธุรกิจใหม่ในปี 1980 คือ อุตสาหกรรมยานยนต์ ซิก้าได้ขยายธุรกิจจากเคมีก่อสร้างแบบดั้งเดิมด้วย Sikaflex และเปิดตัวสินค้าใหม่ คือ ผลิตภัณฑ์มอร์ต้า

อีกกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่สําคัญอีกกลุ่มที่สามารถยืนอยู่ได้ภายใต้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยคือ "ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการปรับปรุงและการบํารุงรักษา" เพื่อลดการพึ่งพาอุตสาหกรรมก่อสร้างในอนาคต ซิก้าจึงขยายตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ "การปรับปรุงและการบํารุงรักษา" ซึ่งยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

เหตุการณ์สำคัญระหว่างปี พ.ศ. 2533 - 2553 : การเติบโตอย่างรวดเร็ว
Heat Welding of Sikaplan® sealing sheets
รูปภาพ: เชื่อมความร้อนของซิกาแพลน® แผ่นปิดผนึก

ซิก้าเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุด ในช่วงระหว่างปี 2533 ถึง 2538 โดยก่อตั้งบริษัทยอยใหม่ 16 แห่ง ผลประกอบการเพิ่มขึ้นจาก 2 พันล้าน CHF เป็นมากกว่า 4.6 พันล้าน CHF ซึ่งเป็นส่วนสําคัญได้มาจากบริษัทย่อย 36 แห่ง ที่ได้มาระหว่างปี 2543 ถึง 2551 และพนักงานเพิ่มขึ้นจาก 8,000 คน เป็น 13,000 คน

Thanks to Sika ViscoCrete it was possible to pump concrete up to the topmost floors of the 180 metre high "Turning Torso" in Malmö, Sweden, and to give the fair-faced concrete facade a surface smooth as glass
รูปภาพ: Thanks to Sika ViscoCrete it was possible to pump concrete up to the topmost floors of the 180 metre high "Turning Torso" in Malmö, Sweden, and to give the fair-faced concrete facade a surface smooth as glass

จากงานฐานรากถึงงานหลังคา

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เป็นต้นมา ซิก้าได้รวบรวมความสามารถหลักของบริษัทไว้ดังต่อไปนี้ การติดยึด การยาแนวรอยต่อ การลดเสียงรบกวน การเสริมความแข็งแรง และการปกป้อง เป้าหมายของบริษัท คือการเป็นผู้นำตลาดด้านเทคโนโลยีในสาขาดังกล่าว ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่งานฐานรากถึงงานหลังคา

Sika Technology Center
รูปภาพ: ศูนย์เทคโนโลยีซิก้า ใน ซูริก
Sika Technology Center
รูปภาพ: Sika Zurich, Switzerland

2553 - ปัจจุบัน : นวัตกรรมและการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

การเติบโตเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญของซิก้า โครงการต่างๆ ที่เกิดขึ้นนำซิก้าไปสู่การบรรลุเป้าหมาย ตั้งแต่ปี 2558 ซิก้าเข้าซื้อกิจการ 20 แห่ง เปิดสาขาใหม่ 11 แห่ง และโรงงานใหม่ 37 แห่ง แนวคิดเกี่ยวกับตลาดเป้าหมายและเมกะเทรนด์ประสบความสำเร็จและขับเคลื่อนธุรกิจให้เจริญเติบโต

นวัตกรรมเป็นหนึ่งในแกนหลักของกลยุทธ์การเติบโตของซิก้า: มีการยื่นจดสิทธิบัตรใหม่ 333 รายการ และศูนย์เทคโนโลยี 20 แห่งทั่วโลก ซิก้ามุ่งมั่นที่จะพัฒนาอย่างยั่งยืน กลยุทธ์ความยั่งยืนของซิก้าเริ่มต้นได้ดีและประสบความสำเร็จ โดยบริษัทฯ บรรลุเป้าหมายส่วนใหญ่ในปี 2558 แนวทางของ Global Reporting Initiative ได้กำหนดกรอบการรายงานความยั่งยืนตั้งแต่ปี 2556

เดือนพฤษภาคม 2560 ซิก้าได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ของสวิส (SMI) สิ่งนี้เป็นเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของซิก้า และเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่เนื่องจากกลยุทธ์การเติบโตและมุ่งเน้นการจัดการด้านประสิทธิภาพ

เดือนพฤษภาคม 2561 ซิก้า ครอบครัว Burkard และ Saint-Gobain ได้ลงนามในข้อตกลง ซึ่งยุติและแก้ไขข้อพิพาทเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องและผู้ถือหุ้น รวมทั้งผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

เดือนพฤษภาคม 2562 การเจรจาควบรวมกิจการของ Parex เข้ากับ Sika ได้ยุติลง ซึ่งเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของบริษัท จากการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ ทำให้ซิก้ามีความแข็งแกร่งมากขึ้นในฐานะผู้นำระดับโลกด้านเคมีภัณฑ์ก่อสร้าง