LANKO 173 SELF SKIM
ปูนปรับระดับด้วยตัวเอง ความหนา 3 - 8 มม.
LANKO 173 SELF SKIM เป็นปูนปรับระดับด้วยตัวเอง สําหรับพื้นภายใน ทั้งพื้นเก่าและพื้นใหม่
- ปรับระดับได้บางสุด 3 มม. หนาสุด 8 มม.
- ปรับระดับด้วยตัวเอง
- ให้ผิวเรียบ
- ยึดเกาะดีเยี่ยม
- เซตตัวเร็ว
- ใช้กับงานที่มีวัสดุปูทับหน้า
การใช้งาน
- ใช้สำหรับงานพื้นภายใน
- พื้นผิว: คอนกรีต พื้นสำเร็จรูป
- วัสดุปิดทับหน้า : สีทาพื้น พรม กระเบื้อง พื้นไม้ ไวนิล ยาง
คุณลักษณะ/คุณประโยชน์
- ปรับระดับได้บางสุด 3 มม. หนาสุด 8 มม.
- ปรับระดับด้วยตัวเอง
- ให้ผิวเรียบ
- ยึดเกาะดีเยี่ยม
- เซตตัวเร็ว
- ใช้กับงานที่มีวัสดุปูทับหน้า
บรรจุภัณฑ์
25 กก. / ถุง
ลักษณะของสินค้า/สี
ผงคอนกรีตสีเทา ผสมเร็จพร้อมใช้
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
อายุผลิตภัณฑ์
12 เดือน นับจากวันที่ผลิต หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย
การเก็บรักษา
จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง และไม่โดนแสงแดดโดยตรง
ขนาดอนุภาคสูงสุด
0 - 2 มม.
ความหนาแน่น (Bulk)
1.3 - 1.4 กก./ ลิตร
ข้อมูลทางเทคนิค
ความต้านทานต่อการขูดขีด
|
ค่ากำลังรับแรงอัด
|
ค่ากำลังรับแรงดัด
|
ค่ากำลังรับแรงยึดเกาะต่อแรงดึง
≥ 1 MPa ที่ 28 วัน
การใช้งาน
ข้อมูลการใช้งาน
อัตราส่วนผสม
LANKO 173 SELF SKIM 1 ถุง (25 กก.) ต่อน้ำ 5.5 - 6.0 ลิตร
อุณหภูมิแวดล้อม
+5°C ถึง +35°C
ระยะเวลาการใช้งานหลังผสม
30 นาที
ระยะเวลาแข็งตัว
ระยะเวลาก่อนปิดทับด้วยวัสดุปิดทับ | ค่าการทดสอบ |
พรม กระเบื้องเซรามิก | ≥ 3 วัน |
แผ่นไวนิล ยาง | ≥ 3 วัน |
ปาร์เก้ | ≥ 3 วัน |
สีทาพื้น | ≥ 7 วัน |
ระยะเวลาที่พร้อมใช้งาน
เริ่มใช้งานได้สำหรับการสัญจรเล็กน้อย 5 - 8 ชัวโมง
ปริมาณการใช้
ปริมาณการใช้
1.5 กก / ตร.ม. / ความหนา 1 มม.
ขั้นตอนการใช้งาน
การผสม
- ผสม LANKO 173 SELF SKIM 25 กก. (1 ถุง) กับน้ำสะอาด 5.5 - 6 ลิตร (น้ํา 22 - 24% ของ น้ําหนักปูน) โดยทั่วไปจะใช้เวลาผสมประมาณ 3 นาที
- พักส่วนผสมไว้สักครู 1 - 3 นาที เพื่อลดฟองอากาศที่เกิดจากการผสม
- หลังจากผสมเสร็จแล้ว ห้ามเติมน้ําเพิ่ม
การใช้งาน
การทารองพื้น
- ทา LANKO 162 FLOW PRIME ลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้ ทิ้งไว้ให้หมาด ก่อนเทด้วยแลงโก้ LANKO 173 SELF SKIM
- ควรทารองพื้น หรือบ่มพื้นผิวก่อนทำงาน เพื่อเป็นการเพิ่มการยึดเกาะ และลดปัญหาฟองอากาศบนผิวหน้า
การทำงาน
- เท LANKO 173 SELF SKIM ที่ผสมแล้วลงบนพื้นผิวที่เตรียมไว้
- หลังจากนั้นให้ปาดด้วยไม้สามเหลี่ยมให้ได้ระดับ การทําระดับอาจใช้การจับปุ่ม เซี่ยม ร่อง พีวีซีสําเร็จรูป หรือไม้คิ้ว วางให้ได้ระดับตามต้องการ
- สามารถใช้ลูกกลิ้งหนาม เพื่อลดฟองอากาศที่ฝังอยู่ในเนื้อปูน โดยให้กลิ้งหลังจากปาดได้ระดับแล้ว
ร่องกันแตก
- พื้นที่มีบริเวณกว้างควรตัดร่องกันแตก เพื่อหลีกเลี่ยงรอยแตกร้าว ที่อาจเกิดกระจายอยู่ทั่วไป โดยแนวร่องกันแตกควรอยู่ตรงกับแนวเสา แต่ถ้าระยะห่างของเสามาก อาจต้องตัดระหว่างช่วงเสาด้วย รวมถึง รอยต่อที่เกิดจากการเท การเทแต่ละครั้งก็ควรตัดเป็นแนวร่องกันแตกด้วยเช่นเดียวกัน
- ควรตัดร่องกันแตกโดยการใช้เครื่องตัด พยายามให้ได้พื้น เป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส โดยมีความยาวมากสุด 8 เมตร ตัดร่องให้ตรงกับแนวเสา
- ร่องกันแตกต้องตัดให้ตรงกับแนวรอยต่อของโครงสร้างหรือร่องกันแตกของพื้นเดิม