SikaCor® VEL TH

สารประกอบเรซินไวนิลเอสเทอร์และสารอินทรีย์เปอร์ออกไซด์

นับจากวันที่ผลิต หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย

จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง +5ºC ถึง +23ºC เก็บให้ห่างจากความเย็นจัด

*ความร้อนที่สภาวะเปียก/ชื้น ในช่วงระยะสั้น สามารถทนอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 100 องศาเซลเซียส เช่น การทำความสะอาดพื้นด้วยไอน้ำ ที่ต้องสัมผัสกับความร้อนเป็นครั้งคราว

ทดสอบตามกลุ่ม 1, 1a, 2, 3, 3a, 3b, 4, 4a, 4b, 4c, 5, 5a, 5b, 6, 6b, 7, 7a, 7b, 8, 9, 9a, 10, 11, 12, 13, 14, 15 und 15a

*คงทนต่อสารเคมีหลากหลายชนิด อย่างไรก็ตาม โปรดสอบถามเพิ่มเติมสำหรับรายการสารเคมีที่ SikaCor® VEL TH สามารถทนทานได้อย่างละเอียด

ต่ำสุด +5°C / สูงสุด +35°C

สูงสุด 80% r.h.

ระวังการเกิดการควบแน่น

พื้นผิวที่ยังบ่มตัวไม่เรียบร้อย จะต้องมีอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้างอย่างน้อย 3°C เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดหยดน้ำหรือจุดด่างบนพื้นผิววัสดุ

ต่ำสุด + 5°C / สูงสุด +35°C

≤ 4% สัดส่วนโดยน้ำหนัก  
วิธีการทดสอบ: มิเตอร์วัดความชื้น Sika® -Tramax, CM หรือ การวัดโดยใช้วิธี Oven-dry method ต้องไม่มีความชื้นขึ้นสะสม (rising moisture) เมื่อคลุมด้วยแผ่นพลาสติก ตามมาตรฐาน ASTM (Polyethylene-sheet) ต้องไม่มีน้ำ ความชื้น รวมถึงการควบแน่นบนพื้นผิว

SikaCor® VEL TH, ระบบเคลือบกันสนิมอย่างหนา (ไม่รวมถึงระบบซ่อมรอยแตกร้าว)

SikaCor® VEL TH, ระบบมาตรฐาน
 

SikaCor® VEL TH, ระบบประหยัด
 

SikaCor® VEL TH, ระบบใช้งานหนัก
 

กันลื่น ชั้นท๊อปโคท (ทางเลือกเสริม)

หมายเหตุ:

• ในกรณีที่ใช้ SikaCor® VEL TH เป็นชั้นรองพื้น ไม่จำเป็นต้องเพิ่ม SikaCor® powder fine grey ลงในส่วนผสม
• ค่าดังกล่าวเป็นค่าตามทฤษฎีและไม่รวมกรณีเพิ่มเติมวัสดุใดๆ เนื่องจากความพรุนของพื้นผิว สภาพของพื้นผิว ความผันแปรในแต่ละชั้น การสูญเสียของผลิตภัณฑ์
• Vetrotex M123 เป็นใยแก้วที่แนะนำให้ใช้ อย่างไรก็ตาม สามารถใช้ใยแก้วอื่นที่เทียบเท่าได้ และโปรดอ้างอิงผลิตภัณฑ์ที่เป็นพันธมิตรกับซิก้าสำหรับคำแนะนำเพิ่มเติมในการใช้งาน
• ปริมาณของ SikaCor® VE hardener สามารถลดลงเหลือร้อยละ 1 ได้ ในกรณีที่อุณหภูมิใช้งานสูงกว่า 30 องศาเซลเซียส

SikaCor® VEL TH ต้องผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง โดยการผสมด้วยสว่านที่ความเร็วรอบต่ำ (300 - 400 รอบ/นาที) หรือเครื่องมืออื่นๆ ที่เหมาะสม

คุณภาพของพื้นผิว

พื้นผิวคอนกรีตจะต้องมีความแน่น แข็งแรง แห้ง สะอาด ปราศจากคราบน้ำมัน จาระบี รวมทั้งสารเคลือบ และสิ่งสกปรกต่างๆ ต้องมีค่าการรับกำลังอัดอย่าง น้อย 25 นิวตัน/ ตารางมิลลิเมตร และค่าการยึดเกาะ มีความแข็งแรงต่อการดึงอย่างน้อย 1.5 นิวตัน/ ตารางมิลลิเมตร แนะนำให้ทดลองใช้งานบนพื้นที่ทดสอบก่อน

คอนกรีต

เตรียมพื้นผิวโดยใช้เครื่องขัด เครื่องยิงลูกเหล็ก เครื่องขูดผิวหน้าคอนกรีต หรือเครื่องมือ ที่เหมาะสม เพื่อขจัดคราบปูนและให้พื้นผิวอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน สามารถใช้เครื่องเจียร เพื่อขจัดรอยตำหนิบนพื้นผิวคอนกรีตได้ โดยต้องขัดพื้นผิวที่เปราะบางและเริ่มเสื่อมสภาพออก ได้แก่ จุดบกพร่องต่างๆ แอ่ง และหลุมต่างๆที่ผิวหน้าคอนกรีต ในการซ่อมแซมพื้นผิว อุดรอยร้าว หลุมต่างๆ และช่องว่างรูพรุนที่ผิวหน้าคอนกรีต

ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ Sikafloor®, Sikadur® และ Sikagard® หรือผลิตภัณฑ์อื่นของ Sika ที่มีความเหมาะสมกับหน้างาน ในส่วนของพื้นผิวคอนกรีตที่มีความหยาบ อาจจำเป็นต้องมีการลงชั้นรองพื้น หรือปรับระดับให้พื้นผิวนั้นมีความสม่ำเสมอเสียก่อน
บางจุดที่มีส่วนนูนสูงขึ้นมา จำเป็นต้องเอาออก อาทิเช่น วิธีการขัดออกด้วยหินเจียร ฝุ่น ผิวหน้าที่เปราะบาง หลุดร่อนต่างๆ จำเป็นต้องกำจัดออกให้เรียบร้อยก่อนทำการติดตั้งผลิตภัณฑ์ แนะนำให้ใช้ไม้กวาด และหรือ เครื่องดูดฝุ่น

เหล็ก

พื้นผิวเหล็กต้องเตรียมผิวด้วยวิธีพ่นยิง พื้นผิวต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในระดับ SSPC-SP 10 ซึ่งตรงกับเงื่อนไข near white metal blast cleaned หากอ้างอิงมาตรฐาน ISO EN 12944-4 พื้นผิวต้องเป็นไปตามข้อกำหนดในระดับ SA2.5 นอกจากนี้ รอยเชื่อมและรอยต่อโครงสร้างต้องเป็นไปตามมาตรฐาน EN 14879 ส่วนที่ 1 หลังจากทำความสะอาดด้วยวัสดุขัดผิวแล้ว ต้องกำจัดสิ่งสกปรก ฝุ่น และเศษวัสดุขัดผิวให้หมด ในการรักษาสภาพพื้นผิวหลังการเตรียมผิว แนะนำให้เก็บรักษาในสถานที่ที่มีการเปิดเครื่องปรับอากาศ

การผสม

เวลาผสม

การปรับระดับพื้นผิวด้วยมอร์ตาร์: ก่อนผสม ให้คนส่วนประกอบ A โดยเครื่องมือผสม เมื่อเพิ่มส่วนประกอบ B ทั้งหมดลงในส่วนประกอบ A แล้ว ให้ผสมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ถึง 2 นาที จนได้ส่วนผสมที่มีความสม่ำเสมอ แล้วเติมผง SikaCor® VEL ทั้งหมดในขณะที่ทำการกวนอย่างช้าๆ
 

ชั้นลามิเนตและเคลือบผิวบนสุด: ก่อนผสม ให้คนส่วนประกอบ A โดยเครื่องมือผสม เมื่อเติมส่วนประกอบ B ทั้งหมดลงในส่วนประกอบ A แล้ว ให้ผสมอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 1 ถึง 2 นาทีจนได้ส่วนผสมที่มีความสม่ำเสมอ อย่างไรก็ตาม ให้หลีกเลี่ยงการผสมมากเกินไป เพื่อลดการเกิดฟองอากาศ

ก่อนการใช้งานผลิตภัณฑ์ ให้ตรวจสอบความชื้นของพื้นผิว ความชื้นสัมพัทธ์ และจุดน้ำค้าง

ถ้าความชื้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 4 โดยน้ำหนัก ต้องทำให้พื้นผิวอยู่ในสภาวะแห้ง หรือใช้ Sikagard® 75 EpoCem เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวกันความชื้นชั่วคราว

การปรับระดับพื้นผิวด้วยมอร์ตาร์

ต้องปรับระดับพื้นผิวที่มีความขรุขระก่อนใช้งานผลิตภัณฑ์ โดยใช้มอร์ตาร์ปรับระดับพื้นผิวด้วยไม้กวาดหุ้มยาง หรือเกรียงปาดเพื่อให้ได้ความหนาพื้นผิวที่ต้องการ

ชั้นลามิเนต

ใช้ผลิตภัณฑ์ SikaCor® VE TH เคลือบชั้นแรกด้วยลูกกลิ้ง วางผ้าใยแก้ว แล้วเคลือบชั้นที่ 2 และ 3 ในลักษณะเดียวกัน ในขณะที่ยังอยู่ในสภาวะเปียก หลังจากวางผ้าใยแก้วชั้นสุดท้ายแล้ว ให้ไล่ฟองอากาศออกด้วยลูกกลิ้งแบบแหวน เพื่อไม่ให้ลูกกลิ้งดึงผิวใยแก้ว

ทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์การใช้งานทั้งหมด ด้วยอะซิโตนทันทีหลังการใช้งานผลิตภัณฑ์ สำหรับวัสดุที่แข็งตัวและผ่านการบ่มแล้ว สามารถเอาออกได้ โดยใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น

ข้อควรตระหนัก : อะซิโตนเป็นของเหลวไวไฟ โปรดใช้อย่างระมัดระวัง ใช้อุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อป้องกันความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานตามความจำเป็น