23/05/2019
การเจรจาควบรวมกิจการของ Parex เข้ากับ Sika ได้ยุติลงแล้วในวันที่ 23 พ.ค. 2562 หลังจากการประกาศ และหารือร่วมกันอย่างเป็นทางการมาตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม 2562 ด้วยยอดขาย 1,200 ล้านสวิสฟรังก์ ต่อปี ได้แสดงให้เห็นว่า Parex เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมประเภทมอร์ต้าที่เติบโต และมีผลประกอบการดี
Sika และ Parex เป็นสองบริษัทที่แข็งแกร่งและสนับสนุนซึ่งกันและกัน ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การควบรวมกิจการครั้งนี้จะส่งเสริมให้ Sika ขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับตลาดงานตกแต่งอาคารเสริมความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำระดับโลกด้านเคมีภัณฑ์งานก่อสร้างและมียอดขายมากกว่า 8,000 ล้านสวิสฟรังก์ในปี 2562
ผลิตภัณฑ์ของ Parex ได้แก่ ฟาซาดมอร์ต้าสำหรับงานซ่อมโครงสร้างปูนกาวติดกระเบื้อง และมอร์ต้าสำหรับงานกันซึมและด้วยความเชี่ยวชาญในด้านผลิตภัณฑ์มอร์ต้า เพื่อใช้ในงานซ่อมแซมและงานสร้างใหม่ Parex จึงอยู่ในตลาดงานก่อสร้างแบบครบวงจร
ตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการ Parex มีสถานะที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษในช่องทางการจัดจำหน่ายโดยเฉพาะในประเทศจีนที่ซึ่งParex ได้สร้างเครือข่ายการจำหน่ายกว่า 90,000 จุดจำหน่าย ด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและเป็นที่ยอมรับ Parex จึงเป็นที่รู้จักในด้านความเชี่ยวชาญด้านงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ และมีความเป็นเลิศทางเทคนิค Parex มีสำนักงานอยู่ใน 23 ประเทศ โดยมีตำแหน่งสำคัญใน 8 ตลาดหลัก และมีโรงงาน 74 แห่งทั่วโลก
การควบรวมกิจการของ Parex เข้ากับ Sika จะทำให้ Sika เติบโตและแข็งแกร่งขึ้น ธุรกิจมอร์ต้าซึ่งถือเป็นเทคโนโลยี่หลักของกลุ่ม และเป็นหนึ่งในความสำคัญที่จะผลักดันให้เกิดรายได้หลักเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และด้วยสถานะที่แข็งแกร่งในช่องทางการจัดจำหน่ายของ Parex จะเป็นโอกาสที่ดีให้กับ Sika ได้เข้าไปนำเสนอและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซิก้าให้แพร่หลายยิ่งขึ้นส่วน Parex เองก็จะได้เข้าถึงช่องทางการขายผลิตภัณฑ์ให้กับงานโครงการมากขึ้น ความเชี่ยวชาญของ Parex ในด้านฟาซาดมอร์ต้า และปูนกาวติดกระเบื้อง จะช่วยให้ Sika สามารถมีส่วนร่วมในตลาดที่เติบโตและน่าสนใจนี้ด้วย
"Paul Schuler, CEO (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม) ของ Sika กล่าวว่า “การควบรวมกิจการของ Parex เข้ากับ Sika เป็นการควบรวมกิจการของสองบริษัทที่มีความแข็งแกร่ง การดำเนินธุรกิจร่วมกันของทั้งสองบริษัทจะแสดงให้เห็นการเติบโตอย่างยอดเยี่ยมของทั้งสององค์กร นอกเหนือจากการควบรวมกิจการอย่างลงตัวและเหมาะสม ทั้งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ และช่องทางการจัดจำหน่ายแล้ว เรายังเห็นว่าทั้งสองบริษัทมีวัฒนธรรม ค่านิยม และรูปแบบการบริหารที่คล้ายคลึงกันมาก โดยมุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับลูกค้า รวมถึงบุคคลากรในองค์กร ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการที่มีคุณภาพ แผนการควบรวมกิจการดำเนินไปด้วยความราบรื่น และจากการเยี่ยมโรงงานและพบปะพนักงาน Parex ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นว่า เป็นการควบรวมกิจการที่เหมาะสม และน่าดึงดูดใจมาก พวกเรารู้สึกตื่นเต้นที่จะเริ่มทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างอนาคตที่ประสบความสำเร็จร่วมกันของเรา เรายินดีต้อนรับพนักงานของ Parex ทุกท่านเข้าสู่ครอบครัว Sika ด้วยความอบอุ่น”" Paul Schuler, CEO of Sika