Sikafloor®-81 EpoCem®
อีพ๊อกซี่ - ซีเมนต์ 3 ส่วนผสม ปรับระดับได้ด้วยตัวเอง สำหรับเคลือบพื้นเพื่อป้องกันความชื้นชั่วคราว
Sikafloor®-81 EpoCem® เป็นอีพ๊อกซี่ดัดแปลงร่วมกับซีเมนต์ 3 ส่วนผสม สำหรับพื้นที่ต้องการผิวเรียบที่ความหนา 1.5 - 3 มม.
- สามารถเคลือบทับหน้าด้วยพื้นเรซินได้หลังจาก 24 ชั่วโมง (ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 75%)
- ป้องกันการพองตัวของชั้นเคลือบที่มีเรซินเป็นส่วนประกอบหลัก บนพื้นผิวที่เปียกชื้น
- ใช้งานง่าย ประหยัด และปฏิบัติงานแล้วเสร็จได้รวดเร็ว
- จัดอยู่ในมอร์ตาร์ชั้นคุณภาพ R4 ตามมาตรฐาน EN 1504-3
- มีคุณสมบัติการปรับระดับพื้นผิวที่ดี
- ป้องกันการซึมผ่านของของเหลว แต่ยอมให้ไอน้ำซึมผ่านได้
- คงทนต่อความเย็นจัดและสภาวะการละลายน้ำแข็ง
- ทนต่อสารเคมีได้ดี
- มีคุณสมบัติการขยายตัวเนื่องจากอุณหภูมิใกล้เคียงกับคอนกรีต
- ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมกับคอนกรีตที่เริ่มแข็งตัว และคอนกรีตแข็งตัวแล้ว ไม่ว่าจะชื้นหรือแห้ง
- มีคุณสมบัติเชิงกลของวัสดุดีมากทั้งในสภาวะเริ่มแข็งตัว และสภาวะหลังการบ่มตัว
- ทนทานต่อน้ำและน้ำมันได้ดีเยี่ยม
- สามารถเตรียมผิวให้มีความเรียบได้ดี
- สำหรับการใช้งานภายใน
- ไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นตัวทำละลาย
- ไม่กัดกร่อนเหล็กเสริมคอนกรีต
การใช้งาน
ใช้ป้องกันความชื้นชั่วคราว ให้ใช้ความหนาไม่น้อยกว่า 2 มิลลิเมตร สำหรับงานติดตั้งพื้นอิพ็อกซี โพลิยูรีเทน และโพลิเมทิลเมทาคริเลต สามารถใช้งานกับพื้นผิวเดิมได้ทั้งสภาวะแห้ง สภาวะที่มีความชื้นสูง รวมถึงพื้นคอนกรีตใหม่ที่อยู่ในขั้นของการแข็งตัวแล้ว แต่ยังไม่เซ็ทตัวเต็มที่ใช้กับพื้นขัดหยาบที่สามารถปรับระดับได้เอง สำหรับ:
- งานปรับระดับหรืองานแก้ไขพื้นผิวคอนกรีตในแนวราบ รวมถึงงานก่อสร้างใหม่ หรืองานซ่อมในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสการสารเคมีอย่างรุนแรง
- การเคลือบพื้นบนพื้นผิวในสภาวะเปียกชื้นที่มีการระบายอากาศไม่ดี และเป็นงานที่ไม่มีข้อกำหนดด้านความสวยงามเป็นพิเศษ
- ชั้นปรับระดับผิวพื้น สำหรับพื้นอิพ็อกซี พอลิยูรีเทน และพอลิเมทิลเมทาคริเลต รวมถึงซีเมนต์ขัดหยาบ กระเบื้อง พื้นไวนิลแบบแผ่นย่อย พรมหรือพื้นไม้
- งานซ่อมแซมและบำรุงรักษาพื้นคอนกรีตหล่อในที่ทั่วไป และพื้นคอนกรีตระบบสูญญากาศ
- สำหรับการเคลือบผิวพื้นและพื้นขัดหยาบแบบอิพ็อกซี พอลิยูรีเทน และพอลิเมทิลเมทาคริเลต
ออกแบบมาเพื่อใช้กับพื้นผิวซีเมนต์:
- เหมาะสำหรับการควบคุมความชื้น (บทที่ 2 วิธีที่ 2.3 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
- เหมาะสำหรับให้ความต้านทานทางกายภาพ (บทที่ 5 วิธีที่ 5.1 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
- เหมาะสำหรับงานซ่อมแซมคอนกรีต (บทที่ 3 วิธีที่ 3.1 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
- เหมาะสำหรับการรักษาและฟื้นฟูคอนกรีต (บทที่ 7 วิธีที่ 7.1 และ 7.2 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
- เหมาะสำหรับการเพิ่มความต้านทาน (บทที่ 8, วิธีที่ 8.3 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
คุณลักษณะ/คุณประโยชน์
- สามารถเคลือบทับหน้าด้วยพื้นเรซินได้หลังจาก 24 ชั่วโมง (ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส และความชื้นสัมพัทธ์ 75%)
- ป้องกันการพองตัวของชั้นเคลือบที่มีเรซินเป็นส่วนประกอบหลัก บนพื้นผิวที่เปียกชื้น
- ใช้งานง่าย ประหยัด และปฏิบัติงานแล้วเสร็จได้รวดเร็ว
- จัดอยู่ในมอร์ตาร์ชั้นคุณภาพ R4 ตามมาตรฐาน EN 1504-3
- มีคุณสมบัติการปรับระดับพื้นผิวที่ดี
- ป้องกันการซึมผ่านของของเหลว แต่ยอมให้ไอน้ำซึมผ่านได้
- คงทนต่อความเย็นจัดและสภาวะการละลายน้ำแข็ง
- ทนต่อสารเคมีได้ดี
- มีคุณสมบัติการขยายตัวเนื่องจากอุณหภูมิใกล้เคียงกับคอนกรีต
- ยึดเกาะได้ดีเยี่ยมกับคอนกรีตที่เริ่มแข็งตัว และคอนกรีตแข็งตัวแล้ว ไม่ว่าจะชื้นหรือแห้ง
- มีคุณสมบัติเชิงกลของวัสดุดีมากทั้งในสภาวะเริ่มแข็งตัว และสภาวะหลังการบ่มตัว
- ทนทานต่อน้ำและน้ำมันได้ดีเยี่ยม
- สามารถเตรียมผิวให้มีความเรียบได้ดี
- สำหรับการใช้งานภายใน
- ไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นตัวทำละลาย
- ไม่กัดกร่อนเหล็กเสริมคอนกรีต
บรรจุภัณฑ์
ชุด 23 กิโลกรัม
ส่วนประกอบ A | 1.14 กิโลกรัม บรรจุในขวดพลาสติก |
ส่วนประกอบ B | 2.86 กิโลกรัม บรรจุในขวดพลาสติก |
ส่วนประกอบ C | 19 กิโลกรัม ต่อถุง |
ลักษณะของสินค้า/สี
ส่วนประกอบ A | ของเหลวสีขาว |
ส่วนประกอบ B | ของเหลวสีเหลืองใส |
ส่วนประกอบ C | ผงสีเทา |
สีเมื่อผสมเสร็จ | สีเทาอ่อน |
สีเมื่อแห้ง | สีเทาด้าน |
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
การรับรองมาตรฐาน
- รายงาน ITT (*) ตามมาตรฐาน EN 1504-2 Ref. 09/349-963 ลงวันที่ 6 พฤษภาคม 2552 มาตรฐาน EN 1504-3 เลขที่อ้างถึง 09/351-965 ลงวันที่ 4 พฤษภาคม 2552 โดย Applus Laboratory เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
- ปูนฉาบซีเมนต์ดัดแปลงอิพ็อกซีสำหรับการปาดพื้นแบบปรับระดับผิวได้เอง ตามมาตรฐาน EN 1504-2: 2004 มาตรฐาน EN 1504-3: 2005 และมาตรฐาน EN 13813:2002 DoP 02 08 02 01 001 0 000001 1001 รับรองโดย Factory Production Control Body No. 2116 และมีสัญลักษณ์ CE
ส่วนประกอบหลักทางเคมี
อีพ็อกซี่ซีเมนต์มอร์ต้าชนิดดัดแปลง
อายุผลิตภัณฑ์
ส่วนประกอบ A, ส่วนประกอบ B: | 12 เดือน |
ส่วนประกอบ C: | 9 เดือน |
การเก็บรักษา
จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง +5°C ถึง +30°C
ส่วนประกอบ A, ส่วนประกอบ B: | เก็บให้ห่างจากความเย็นจัด |
ส่วนประกอบ C: | เก็บให้ห่างจากความชื้น |
ความหนาแน่น
ส่วนประกอบ A | ~ 1.05 กก./ลิตร (ที่อุณหภูมิ +20°C) |
ส่วนประกอบ B | ~ 1.03 กก./ลิตร (ที่อุณหภุมิ +20°C) |
ส่วนผสมเรซิ่น | ~ 1.72 กก./ลิตร (ที่อุณหภูมิ +20°C) |
ส่วนผสม A+B+C: | ~ 2.10 กก./ลิตร (ที่อุณหภูมิ +20°C) |
ความต้านทานต่อการขูดขีด
11.9 ซม.3 / 50 ซม.2 ความลึก 2.4 มม. | (EN 13892-3) |
ค่ากำลังรับแรงอัด
ที่อุณหภูมิ +23 °C, ความชื้นสัมพันธ์ 50 % | |
1 วัน | ~15 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร |
7 วัน | ~50 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร |
28 วัน | ~60 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร |
ค่ากำลังรับแรงดัด
อุณหภูมิ +23 °C, ความชื้นสัมพันธ์ 50 % | |
1 วัน | ~5.8 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร |
7 วัน | ~11.1 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร |
28 วัน | ~14 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร |
ค่ากำลังรับแรงยึดเกาะต่อแรงดึง
4.1 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร ระยะเวลา 28 วัน ที่อุณหภูมิ +20 ºC, ค่าความชื้นสัมพันธ์ 50% r.h. ) (ชิ้นเคลือบผิวหลุดจากคอนกรีต) | (EN 13892-8) |
ค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวของความร้อน
α มีค่าประมาณ 15.1×10-6 ต่อองศาเซลเซียส (อุณหภูมิระหว่าง -20 ถึง 60 องศาเซลเซียส) | (EN 1770) |
อุณหภูมิการใช้งาน
-30°C ถึง +80°C
การดูดซึมน้ำ
W ≈ 0.02 กิโลกรัมต่อตารางเมตร x h0.5 | (DIN 52 617) |
ความสามารถในการซึมผ่าน ของคาร์บอนไดออกไซด์
μC02 ≈ 4168 | (วิธี Klopfer / Engelfried) |
ความต้านทานต่อเกลือที่ใช้ละลายน้ำแข็งใน สภาวะที่น้ำกลายเป็นน้ำแข็งสลับกับละลาย
ค่าความต้านทาน WFT-L 98% (ระดับสูง) | D-R (SN / VSS 640 461) |
ความต้านทานต่อปฎิกิริยาคาร์บอเนชั่น
ความต้านทานการเกิดคาร์บอเนชั่นต่อความหนา 3 มิลลิเมตร : R มีค่าประมาณ 12.5 เมตร
การใช้งาน
อัตราส่วนผสม
ส่วนประกอบ A : ส่วนประกอบ B : ส่วนประกอบ C เท่ากับ 1.14 กก. : 2.86 กก. : 19 กก.
พื้นปรับระดับ:
ที่อุณหภูมิระหว่าง 12 องศาเซลเซียส ถึง 25 องศาเซลเซียส:
1 : 2.5 : 17 (โดยน้ำหนัก)
ส่วนประกอบ A และ B : C เท่ากับ 4 กิโลกรัม : 19 กิโลกรัม
ที่อุณหภูมิระหว่าง 8 องศาเซลเซียส ถึง 12 องศาเซลเซียส และช่วง 25 องศาเซลเซียส ถึง 30 องศาเซลเซียส:
ปริมาณของส่วนประกอบ C ให้ลดลงเหลือ 18 กิโลกรัม เพื่อเพิ่มความสามารถเทได้
ข้อควรระวัง อย่าลดส่วนประกอบ C ลงไปมากกว่าค่าที่กำหนด
1 : 2.5 : 15.8 (โดยน้ำหนัก)
ส่วนประกอบ A และ B : C เท่ากับ 4 กิโลกรัม : 19 กิโลกรัม
มอร์ตาร์ผสมเพิ่ม สำหรับงานฉาบซ่อม:
ในการซ่อมพื้นผิวที่ไม่สม่ำเสมอและรูที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3 ถึง 5 เซนติเมตร และลึกกว่า 3 ถึง 9 มิลลิเมตร ส่วนผสมมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ Sikafloor®-81 EpoCem® สามารถผสมทรายควอตซ์แห้งเพิ่มเติมได้โ
สำหรับในแต่ละชุด 23 กิโลกรัมของ Sikafloor®-81 EpoCem® ที่จัดเตรียมไว้ ให้เติมทรายและน้ำยาเพิ่มดังนี้:
- Sikadur®-509 (ทรายควอทซ์ 0.7 ถึง 1.2 มิลลิเมตร) 5 - 10 กิโลกรัม และ
- Sikadur®-510 (ทรายควอทซ์ 2.0 ถึง 3.0 มิลลิเมตร) 5 - 10 กิโลกรัม
ส่วนผสมสุดท้ายเท่ากับ 33 - 43 กิโลกรัม
เพื่อให้ได้การยึดเหนี่ยวที่ดีของผลิตภัณฑ์และพื้นผิว ต้องใช้ SikaTop®-Armatec®-110 EpoCem® เป็นชั้นยึดเหนี่ยว และใช้มอร์ตาร์ในสภาวะเปียกบนชั้นรองพื้นร่วมด้วย
ความหนาต่อชั้น
ต่ำสุด 1.5 มิลลิเมตร / สูงสุด 3.0 มิลลิเมตร
หากใช้ผลิตภัณฑ์ Sikafloor®-81 EpoCem® เป็นชั้นป้องกันความชื้นชั่วคราว ต้องให้มีความหนาอย่างน้อย 2 มิลลิเมตร
อุณหภูมิแวดล้อม
ต่ำสุด +8°C / สูงสุด +30°C
ค่าความชื้นสัมพัทธ์
ต่ำสุด 20% / สูงสุด 80%
อุณหภูมิของพื้นผิว
ต่ำสุด +8°C / สูงสุด +30°C
ความชื้นของพื้นผิว
ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้กับคอนกรีตที่เซ็ทตัวมากพอที่จะทำการขัดหน้าเตรียมพื้นผิวได้ หรือคอนกรีตที่อยู่ในสภาวะมีความชื้น โดยต้องไม่มีน้ำขัง แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะสามารถใช้ร่วมกับพื้นผิวคอนกรีตที่เซ็ทตัวมากพอที่จะทำการขัดหน้าเตรียมพื้นผิวได้ (ไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง) ขอแนะนำอย่างน้อย 3 วัน สำหรับการหดตัวของคอนกรีตในช่วงต้น เพื่อป้องกันไม่ให้รอยร้าวจากการหดตัวของคอนกรีตปรากฏบนพื้นผิว
ระยะเวลาการใช้งานหลังผสม
อุณหภูมิ / ค่าความชื้นสัมพัทธ์ 75% | เวลา |
+10°C | ~ 40 นาที |
+20°C | ~ 20 นาที |
+30°C | ~ 10 นาที |
ชุด 23 กิโลกรัม
เวลาการบ่ม
ในขณะที่ผิวหน้า Sikafloor®-81 EpoCem® ไม่เหนียวตัว สามารถใช้ทับหน้าที่ยอมให้ไอน้ำซึมผ่านทาเคลือบต่อได้
สำหรับการเคลือบด้วยชั้นกันไอน้ำที่มีหนาแน่นสูงบนผลิตภัณฑ์ Sikafloor®-81 EpoCem® อนุญาตให้ความชื้นของพื้นผิวลดลงต่ำกว่าร้อยละ 4 ตามระยะเวลาดังนี้:
อุณหภูมิพื้นผิว | ระยะเวลา |
+10°C | ~ 2 วัน |
+20°C | ~ 1 วัน |
+30°C | ~ 1 วัน |
ปริมาณการใช้
พื้นปรับระดับผิวหน้าด้วยตัวเอง: | Sikafloor®-81 EpoCem® ~2.25 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ต่อมิลลิเมตร |
มอร์ตาร์ผสมเพิ่ม: | Sikafloor®-81 EpoCem® ~2.4 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ต่อมิลลิเมตร |
โปรดดูข้อมูลผลิตภัณฑ์ของ:
Sikafloor® MultiDur ES-14 ECC | พื้นอิพ็อกซีขัดหยาบแบบผสม โรยทรายปริมาณน้อย และผสมสีเคลือบอิพ็อกซี |
Sikafloor® MultiDur EB-24 ECC | พื้นอิพ็อกซีขัดหยาบแบบผสม โรยทรายปานกลาง ผสมสีเดียว |
Sikafloor® MultiDur EB-25 ECC | พื้นอิพ็อกซีขัดหยาบแบบผสม โรยทรายปานกลาง ผสมสีเดียว |
Sikafloor® MultiDur ET-14 ECC | พื้นอิพ็อกซีขัดหยาบแบบผสม โรยทราย ผสมสีเดียว |
ค่าดังกล่าวเป็นค่าตามทฤษฎีและไม่รวมกรณีเพิ่มเติมวัสดุใดๆ เนื่องจากความพรุนของพื้นผิว สภาพของพื้นผิว ความผันแปรในแต่ละชั้น การสูญเสียของผลิตภัณฑ์ และปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง
การผสม
ก่อนการผสม ให้นำส่วนประกอบ A ซึ่งเป็นของเหลวสีขาว มาเขย่าซักระยะจนเป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นนำส่วนประกอบ B มาเขย่าเช่นกัน เป็นเวลาอย่างน้อย 30 วินาที
จากนั้น เท A+B ลงในภาชนะผสมที่เหมาะสม ซึ่งมีความจุประมาณ 30 ลิตร และทำการปั่นผสมเข้าด้วยกันประมาณ 30 วินาที แล้วจึงค่อยๆเติมส่วนประกอบ C ลงในส่วนผสม ผสมให้เข้ากันเป็นเวลา 3 นาที จนได้ส่วนผสมที่เป็นเนื้อเดียวกัน
ผสมส่วนประกอบ A B และ C แบบเต็มหน่วยเท่านั้น อย่าผสมในปริมาณที่น้อยกว่า และห้ามเติมน้ำเพิ่ม
สำหรับกรณีที่เพิ่มวัสดุมวลรวม ให้เพิ่มหลังจากใส่ส่วนประกอบ C ลงในส่วนผสมแล้ว โดยผสมให้เข้ากันเป็นเวลา 3 นาที จนได้ส่วนผสมที่มีความสม่ำเสมอ
เครื่องมือในการผสม
ผสมด้วยสว่านที่ความเร็วรอบต่ำ ( 300 - 400 รอบ/นาที) ด้วยใบปั่นปูนหรืออุปกรณ์อื่นที่เหมาะสม สำหรับการใช้ 2 ถึง 3 ถุงในการผสมครั้งเดียว แนะนำให้ใช้เครื่องผสมแบบหมุนทางเดียว เครื่องผสมแบบหมุนวน และโม่ผสมปูน อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ใช้เครื่องผสมแบบที่ยอมให้ส่วนผสมมีการไหลได้ในแนวดิ่ง
การใช้งาน
เท Sikafloor®-81 EpoCem® ที่ผสมเรียบร้อยแล้ว ลงบนพื้นผิวที่ทำการรองพื้น และเกลี่ยให้ทั่วสม่ำเสมอ จนได้ความหนาที่ต้องการด้วยเกรียงหรือไม้พายยาง หรือโลหะ แล้วใช้ลูกกลิ้งหนามไล่ฟองอากาศ และปรับความหนาให้เท่ากัน
ความสามารถในการเทได้ สามารถปรับได้โดยเปลี่ยนแปลงปริมาณส่วนประกอบ C เล็กน้อย
ห้ามเติมน้ำเพิ่ม ซึ่งมีผลต่อการตกแต่งพื้นผิวและทำให้สีซีดจาง
พื้นผิวที่ไม่มีรอยต่อสามารถทำได้ หากยังรักษาให้ขอบมุมของพื้นผิว อยู่ในสภาวะที่ยังสามารถทำงานได้ ไหลตัวได้ระหว่างติดตั้งผลิตภัณฑ์
การทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์
ทำความสะอาดเครื่องมือด้วยน้ำสะอาดทันทีหลังเสร็จงาน วัสดุที่แข็งตัวแล้วต้องกำจัดโดยใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น