เอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์
แสดงเอกสารทั้งหมด

Sikafloor®-29 PurCem® LP

โพลียูรีเทนมอร์ต้า ความแข็งแรงสูงสำหรับงาน บัวเชิงผนัง และงานเก็บรายละเอียด

Sikafloor®-29 PurCem® LP เป็นน้ำยาแบบสามส่วนผสม ประกอบด้วยน้ำยาโพลียูรีเทนสกรีดมีสีในตัว และซีเมนต์ มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับงานเก็บรายละเอียด และงานฉาบในแนวดิ่ง ช่วยทำให้พื้นผิวเรียบเนียน ป้องกันการเสียดสี ต้านทานสารเคมี และป้องกันความเสียหายทางกลได้ดี โดยทั่วไปจะติดตั้งที่ความหนา 3 ถึง 9 มิลลิเมตร

  • ทนต่อสารเคมีได้ดี ต้านทานต่อกรดอินทรีย์และอนินทรีย์ ด่าง เอมีน เกลือ และตัวทำละลาย โปรดดูแผนภูมิความสามารถต้านทานสารเคมี หรือปรึกษาฝ่ายเทคนิคในเขตพื้นที่ปฏิบัติการของผู้ปฏิบัติงาน
  • ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการทำงานด้วยเกรียง สำหรับงานติดตั้งผลิตภัณฑ์ในแนวดิ่ง
  • มีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวใกล้เคียงกับคอนกรีต ทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปกับพื้นผิวคอนกรีต ภายใต้ความแปรปรวนของอุณหภูมิในสภาวะปกติ คุณสมบัติของวัสดุมีความคงตัวในช่วงอุณหภูมิ -40 ถึง 140°C
  • มีแรงยึดเกาะที่มากกว่าค่ากำลังยึดเกาะของคอนกรีต (ถ้าเกิดความเสียหาย คอนกรีตจะวิบัติด้วยแรงดึงก่อน)
  • ไม่มีสารปนเปื้อน และ ไม่มีกลิ่น
  • ไม่มีส่วนประกอบของสารอินทรีย์ระเหยง่าย
  • ต้านทานแรงทางกลสูง คุณสมบัติของวัสดุเป็นแบบพลาสติก ในสภาวะที่รับน้ำหนักบรรทุกแบบกระแทก ส่งผลให้วัสดุเกิดการเสียรูปแบบไม่มีรอยร้าว หรือการหลุดล่อน
  • มีความสามารถต้านทานการลื่น พื้นผิวเป็นธรรมชาติ มีการยึดเกาะที่ดี
  • มีความสามารถต้านทานการเสียดสีได้ดี เนื่องจากมีมวลรวมแบบซิลิกา
  • ใช้ได้กับคอนกรีตอายุ 7 ถึง 10 วัน ที่ผ่านการเตรียมพื้นผิวแล้ว และมีกำลังรับแรงดึงไม่น้อยกว่า 1.5 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร (218 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
 
  • มอร์ตาร์ที่เตรียมจากผลิตภัณฑ์ Sikafloor®-29 PurCem® LP สามารถทนต่อความชื้นแบบเป็นไอส่งผ่านได้ 12 ปอนด์ต่อ1000 ตารางฟุต เมื่อทำการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM F 1869 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีทดสอบแคลเซียมคลอไรด์แบบไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
  • การบ่มอย่างรวดเร็วช่วยให้สามารถเปิดใช้งานพื้นที่ให้สามารถสัญจรผ่านได้ หลังผ่านไป 12 ชั่วโมง และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบได้หลังจาก 2 วัน ซึ่งช่วยลดเวลาปิดการใช้งานหรือสามารถเปิดสายการผลิตได้เร็วขึ้น
  • ไม่มีรอยต่อ ไม่จำเป็นต้องมีรอยต่อขยายตัวเพิ่มเติม เพียงดูแลและบำรุงรักษารอยต่อขยายตัว ผ่านระบบพื้น Sikafloor® -PurCem®
  • บำรุงรักษาได้ง่าย
  • สามารถใช้งานได้ในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 10 ถึง 35 องศาเซลเซียส
 
Sikafloor®-29 PurCem® LP
เอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์
แสดงเอกสารทั้งหมด

การใช้งาน

Sikafloor®-29 PurCem® LP ใช้งานร่วมกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ PurCem® อื่นๆ ในงานคอนกรีตที่เกี่ยวข้องกับงานฉาบในแนวดิ่ง งานบัวเชิงผนัง งานเก็บรายละเอียดในพื้นที่ที่แนวโน้มเกิดการเสียดสี และการสัมผัสสารเคมีสูง เช่น:
  • โรงงานผลิตอาหาร ทั้งในพื้นที่เปียก พื้นที่เย็นจัด และบริเวณที่อุณหภูมิมีการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน
  • โรงงานผลิตสารเคมี
  • ห้องทดลอง
  • ห้องปฏิบัติการ
  • เหมาะสำหรับการป้องกันคอนกรีตให้มีความต้านทานทางกายภาพ (บทที่ 5 วิธีที่ 5.1 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
  • เหมาะสำหรับการป้องกันคอนกรีตให้มีความสามารถต้านทานสารเคมี (บทที่ 6 วิธีที่ 6.1 ตามมาตรฐาน EN 1504-9)
  การใช้งานบนพื้นผิวที่เป็นเหล็ก ซึ่งผ่านการเตรียมผิวอย่างเหมาะสม และมีฐานรองรับที่มั่นคง เช่น:
  • พื้นที่เปิด ดาดฟ้า ที่เป็นเหล็ก
  • พื้นที่เป็นส่วนยกข้าม หรือชานชาลา

คุณลักษณะ/คุณประโยชน์

  • ทนต่อสารเคมีได้ดี ต้านทานต่อกรดอินทรีย์และอนินทรีย์ ด่าง เอมีน เกลือ และตัวทำละลาย โปรดดูแผนภูมิความสามารถต้านทานสารเคมี หรือปรึกษาฝ่ายเทคนิคในเขตพื้นที่ปฏิบัติการของผู้ปฏิบัติงาน
  • ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการทำงานด้วยเกรียง สำหรับงานติดตั้งผลิตภัณฑ์ในแนวดิ่ง
  • มีค่าสัมประสิทธิ์การขยายตัวใกล้เคียงกับคอนกรีต ทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปกับพื้นผิวคอนกรีต ภายใต้ความแปรปรวนของอุณหภูมิในสภาวะปกติ คุณสมบัติของวัสดุมีความคงตัวในช่วงอุณหภูมิ -40 ถึง 140°C
  • มีแรงยึดเกาะที่มากกว่าค่ากำลังยึดเกาะของคอนกรีต (ถ้าเกิดความเสียหาย คอนกรีตจะวิบัติด้วยแรงดึงก่อน)
  • ไม่มีสารปนเปื้อน และ ไม่มีกลิ่น
  • ไม่มีส่วนประกอบของสารอินทรีย์ระเหยง่าย
  • ต้านทานแรงทางกลสูง คุณสมบัติของวัสดุเป็นแบบพลาสติก ในสภาวะที่รับน้ำหนักบรรทุกแบบกระแทก ส่งผลให้วัสดุเกิดการเสียรูปแบบไม่มีรอยร้าว หรือการหลุดล่อน
  • มีความสามารถต้านทานการลื่น พื้นผิวเป็นธรรมชาติ มีการยึดเกาะที่ดี
  • มีความสามารถต้านทานการเสียดสีได้ดี เนื่องจากมีมวลรวมแบบซิลิกา
  • ใช้ได้กับคอนกรีตอายุ 7 ถึง 10 วัน ที่ผ่านการเตรียมพื้นผิวแล้ว และมีกำลังรับแรงดึงไม่น้อยกว่า 1.5 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร (218 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว)
 
  • มอร์ตาร์ที่เตรียมจากผลิตภัณฑ์ Sikafloor®-29 PurCem® LP สามารถทนต่อความชื้นแบบเป็นไอส่งผ่านได้ 12 ปอนด์ต่อ1000 ตารางฟุต เมื่อทำการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM F 1869 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีทดสอบแคลเซียมคลอไรด์แบบไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ
  • การบ่มอย่างรวดเร็วช่วยให้สามารถเปิดใช้งานพื้นที่ให้สามารถสัญจรผ่านได้ หลังผ่านไป 12 ชั่วโมง และเปิดใช้งานเต็มรูปแบบได้หลังจาก 2 วัน ซึ่งช่วยลดเวลาปิดการใช้งานหรือสามารถเปิดสายการผลิตได้เร็วขึ้น
  • ไม่มีรอยต่อ ไม่จำเป็นต้องมีรอยต่อขยายตัวเพิ่มเติม เพียงดูแลและบำรุงรักษารอยต่อขยายตัว ผ่านระบบพื้น Sikafloor® -PurCem®
  • บำรุงรักษาได้ง่าย
  • สามารถใช้งานได้ในช่วงอุณหภูมิระหว่าง 10 ถึง 35 องศาเซลเซียส
 

บรรจุภัณฑ์

ส่วนประกอบ A            : 1.60 กิโลกรัม บรรจุในถังพลาสติก
ส่วนประกอบ B            : 1.40 กิโลกรัม บรรจุในกระป๋อง
ส่วนประกอบ C            : 19.00 กิโลกรัม บรรจุในถุง

ส่วนประกอบ A + B + C : 22.00 กิโลกรัม ต่อชุด พร้อมใช้งาน

ลักษณะของสินค้า/สี

ส่วนประกอบ A ก่อนผสม : ของเหลวใส

ส่วนประกอบ B                : ของเหลวสีน้ำตาล
ส่วนประกอบ C                : ผงสีเทา

สีอื่นๆ                            : สีครีม, สีเขียว, สีเทาอ่อน, สีเทา, สีแดง

เฉดสีตามที่ต้องการ สามารถทำได้หากลูกค้าร้องขอ โดยมีปริมาณการสั่งซื้อขั้นต่ำ โปรดปรึกษาผู้ผลิตสำหรับกำหนดเวลาในการสั่งซื้อ

ไม่สามารถรับประกันความสม่ำเสมอของสีได้อย่างสมบูรณ์ในแต่ละชุดที่แตกต่างกันของผลิตภัณฑ์

หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ต่างกันของหมายเลขชุดผลิตภัณฑ์ในพื้นที่เดียว

เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความคงตัวของสีผลิตภัณฑ์เมื่อสัมผัสกับแสงยูวี

รายละเอียดผลิตภัณฑ์

การรับรองมาตรฐาน

การรับรองมาตรฐาน

โพลียูรีเทนชนิดพื้นผิวหยาบสำหรับปกป้องพื้นผิวคอนกรีต เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐาน EN 1504-2 บทที่ 5 (PR) และ 6 (CR) สำหรับสารเคลือบ และตรงตามข้อกำหนดของมาตรฐาน EN13813:2002

ได้รับการรับรองว่าเหมาะสำหรับใช้ในโรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ที่ปฎิบัติตามข้อกำหนดความปลอดภัยด้านอาหารของ HACCP ลงวันที่ 10 ธันวาคม 2020 ค่าอื่นๆ ทั้งหมดที่ระบุเป็นผลการทดสอบภายใน
ข้อมูลผลิตภัณฑ์

ส่วนประกอบหลักทางเคมี

ส่วนประกอบ A            : โพลิออลส์ที่มีส่วนประกอบจากน้ำและมีการใส่สี
ส่วนประกอบ B            : ไอโซไซยาเนต
ส่วนประกอบ C            : มวลรวม ซีเมนต์และสารผสมเพิ่ม

อายุผลิตภัณฑ์

ส่วนประกอบ A :  12 เดือน นับจากวันผลิต เก็บให้ห่างจากความเย็นจัด
ส่วนประกอบ B :  12 เดือน นับจากวันผลิต เก็บให้ห่างจากความเย็นจัด
ส่วนประกอบ C :  6 เดือน นับจากวันผลิต เก็บให้ห่างจากความชื้น

การเก็บรักษา

หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง +20 °C ถึง +30 °C.

ความหนาแน่น

ส่วนประกอบ A~1.07 กก./ลิตร
ส่วนประกอบ B~1.24 กก./ลิตร
ส่วนประกอบ C~1.58 กก./ลิตร
ส่วนประกอบ A+B+C ที่ผสมแล้ว~1.97 ± 0.03 กก./ลิตร
ข้อมูลทางเทคนิค

ค่าความแข็ง Shore D

80 - 85

ค่ากำลังรับแรงอัด

28 วัน> 39 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร 
28 วัน> 44 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร

ค่ากำลังรับแรงดัด

28 วัน

> 8.1 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร

28 วัน> 8 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร

ค่ากำลังรับแรงยึดเกาะต่อแรงดึง

> 2.0 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร

(เสียหายในเนื้อคอนกรีต)

(ค่าความแข็งแรงต่อการดึงที่แนะนำสำหรับพื้นผิวคอนกรีต 1.5 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร)

ความต้านทานการลื่นไถล

พื้นผิว

SRV Dry

SRV Wet

Sikafloor®-29 PurCem® LP เคลือบผิวด้วย Sikafloor®-31 PurCem® LP

65

40

TRRL Pendulum, Rapra 4S Slider

ความต้านทานต่ออุณหภูมิ

ผลิตภัณฑ์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแบบฉับพลัน ซึ่งเกิดจากการทำความสะอาดแบบไอน้ำร้อน โดยให้ติดตั้งที่ความหนา 9 มิลลิเมตร หรือมากกว่า

การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิแบบฉับพลัน

ผ่าน

ไม่มีรอยแตกร้าว หรือหลุดลอก

การซึมผ่านของไอน้ำ

กลายเป็นไอ :
(4.3 mm)

~0.104 g/h/m2

ความต้านทานต่อสารเคมี

ทนต่อสารเคมีหลายชนิด ดูจากตารางการทนสารเคมี

ปฎิกิริยาต่อการลุกไหม้

Class B(fl) S1

การใช้งาน

ข้อมูลการใช้งาน

อัตราส่วนผสม

ส่วนประกอบ A : B : C = 1 : 1 : 11.7 (ขนาดบรรจุ = 1.50 : 1.50 : 19.00) โดยน้ำหนัก

 

ความหนาต่อชั้น

ต่ำสุด 3 มม./ สูงสุด 9 มม.

อุณหภูมิแวดล้อม

ต่ำสุด +10 °C/ สูงสุด +35 °C

ค่าความชื้นสัมพัทธ์

สูงสุด 85 %

จุดน้ำค้าง

ให้ระวังการเกิดการควบแน่น

พื้นผิวที่ยังบ่มตัวไม่เสร็จจะต้องมีอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้างอย่างน้อย 3°C เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดหยดน้ำหรือจุดด่างบนพื้นผิววัสดุ

อุณหภูมิของพื้นผิว

ต่ำสุด + 10°C / สูงสุด +35°C

ความชื้นของพื้นผิว

≤ ร้อยละ 4 โดยน้ำหนัก ตามที่กำหนดสำหรับชั้นรองพื้น

วิธีการทดสอบ: เครื่องวัด Sika®-Tramex (อุปกรณ์จำกัดการวัดได้ไม่เกินร้อยละ 6), CM – การวัดหรือวิธีอบแห้ง

Sikafloor®-20 PurCem® LP งานมอร์ต้าสกรีตและงานเก็บรายละเอียด Sikafloor®-29 PurCem® LP สามารถทนต่อการส่งผ่านความชื้นของไอได้ 12 ปอนด์ต่อ 1000 ตารางฟุต เมื่อทำการทดสอบตามมาตรฐาน ASTM F 1869 ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีทดสอบแคลเซียมคลอไรด์ แบบไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ตรวจสอบความชื้นของพื้นผิวก่อนใช้งานทุกครั้ง โปรดดูโครงสร้างระบบ และตัวเลือกสำหรับทางเลือกของการรองพื้นสำหรับพื้นผิวคอนกรีต

ระยะเวลาการใช้งานหลังผสม

อุณหภูมิเวลา
+10 °C~40 - 50 นาที
+20 °C~25 - 30 นาที
+30 °C~15 - 20 นาที
+35 °C~10 - 15 นาที

เวลาการบ่ม

อุณหภูมิเดินได้ใช้งานเบาบ่มเต็มที่
+10 °C~30 ชม.~48 ชม.~7 วัน
+20 °C~18 ชม.~36 ชม.~5 วัน
+30 °C~12 ชม.~24 ชม.~3 - 4 วัน
+35 °C~10 ชม.~20 ชม.~3 - 4 วัน

หมายเหตุ: เวลาที่กำหนดถือเป็นค่าโดยประมาณ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพแวดล้อมและลักษณะของพื้นผิว

 
ปริมาณการใช้

ปริมาณการใช้

ชั้นรองพื้น:

Sikafloor®-161 HC เป็นชั้นรองพื้น นอกจากนี้ ผู้ปฏิบัติงานสามารถใช้งานผลิตภัณฑ์ Sikadur®-732 ได้เช่นกัน (ปริมาณการใช้ผลิตภัณฑ์ อาจแตกต่างไปจากค่าที่กำหนดโดยขึ้นกับสภาพพื้นผิว)

โดยทั่วไป แนะนำให้ติดตั้งกับชั้นรองพื้นในขณะที่ยังไม่แห้งสนิท อย่างไรก็ตาม ผู้ปฏิบัติงานอาจเพิ่มชั้นรองพื้นได้ในกรณีที่จำเป็นต้องรอเวลาบ่มตัวจนชั้นรองพื้นส่วนอื่นแห้งก่อน งานบัวเชิงผนังและงานเก็บรายละเอียด 3 ถึง 9 มิลลิเมตร

Sikafloor®-29 PurCem® LP (ส่วน A+B+C) ปริมาณการใช้ประมาณ 2.0 กิโลกรัม ต่อตารางเมตร ต่อความหนา 1 มิลลิเมตร

*ค่าดังกล่าวเป็นค่าตามทฤษฎีและไม่รวมกรณีเพิ่มเติมวัสดุใดๆ เนื่องจากความพรุนของพื้นผิว สภาพของพื้นผิว ความผันแปรในแต่ละชั้นและการสูญเสียของผลิตภัณฑ์
ขั้นตอนการใช้งาน

การผสม

ส่วนประกอบของวัสดุและอุณหภูมิของสภาพแวดล้อม มีผลต่อกระบวนการผสม

หากจำเป็น ให้ปรับสภาพวัสดุเพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด ซึ่งอยู่ในช่วงอุณหภูมิ 20 ถึง 28 องศาเซลเซียส

เริ่มจากการผสมส่วนผสม A ด้วยสว่านไฟฟ้าที่ความเร็วรอบต่ำ แล้วค่อยเติมส่วนผสม B ลงไป จากนั้น เริ่มผสม A และ B เป็นเวลา 30 วินาที ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเม็ดสีทั้งหมดถูกกระจายอย่างสม่ำเสมอ

จากนั้น ค่อยๆ เพิ่มส่วนผสม C (มวลรวม) ลงในส่วนผสมเรซิน เทลงไปให้หมดในช่วงเวลา 15 วินาที ระวัง อย่าเทเร็วเกินไปในลักษณะที่เทลงไปหมดในครั้งเดียว

ผสมให้ส่วน C เข้ากันเป็นเวลาอย่างน้อย 2 นาที เพื่อให้แน่ใจว่ามีการผสมที่สมบูรณ์และได้ส่วนผสมที่มีความสม่ำเสมอกัน ในระหว่างการผสม ให้ทำการขูดด้านข้างและด้านล่างของภาชนะถ้าเป็นไปได้ ด้วยเกรียงขอบเรียบหรือขอบตรงอย่างน้อยหนึ่งครั้ง (ส่วน A+B+C) เพื่อให้แน่ใจว่าส่วนผสมจะมีความเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์ ให้ผสมผลิตภัณฑ์ในแบบเต็มชุดเท่านั้น

เมื่อเติมมวลรวมลงในส่วนผสมเพื่อที่จะใช้ในลักษณะของการฉาบ ให้ค่อยๆ เติมทรายควอทซ์แห้งขนาด 2 ถึง 3 มิลลิเมตร จำนวน 6 กิโลกรัมทันทีหลังจากผสมผลิตภัณฑ์เต็มชุดแล้ว

การใช้เครื่องผสมคอนกรีตผสมผลิตภัณฑ์ การเติมส่วนผสม C (มวลรวม) ลงในส่วนผสมของเรซิน ให้เทผสมลงไป โดยให้อยู่ในช่วงเวลา 15 วินาที

ระวัง อย่าเทเร็วเกินไปในลักษณะที่เทลงไปหมดในครั้งเดียว

ใช้สว่านไฟฟ้าความเร็วรอบต่ำที่ประมาณ 300-400 รอบต่อนาที สำหรับผสมชิ้นส่วน A และ B สำหรับส่วนผสมปูนปรับหยาบ ให้ใช้เครื่องโม่ผสมคอนกรีตได้

 

การใช้งาน

ตรวจสอบความชื้นของพื้นผิว ความชื้นสัมพัทธ์ และจุดน้ำค้างก่อนใช้งานผลิตภัณฑ์ หากความชื้นมากกว่าร้อยละ 6 โดยน้ำหนัก สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ Sikagard®-720 EpoCem® เป็นชั้นป้องกันความชื้นชั่วคราวได้ ก่อนลงชั้นรองพื้นด้วย Sikafloor® -155 WN, Sikafloor® -161 HC หรือ Sikadur®-732 บนพื้นผิวแนวดิ่ง

ชั้นรองพื้น

ผสมและทาน้ำยารองพื้นตามเอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยใช้แปรงหรือลูกกลิ้งเพื่อให้มีความสม่ำเสมอ ในส่วนของชั้นรองพื้น น้ำยาต้องมีความเหนียวและยังไม่แห้งในขณะทำการติดตั้ง Sikafloor®-29 PurCem® LP ผสมน้ำยารองพื้น และทาน้ำยารองพื้นเฉพาะในส่วนของพื้นที่ที่สามารถทาทับได้ ในช่วงเวลาก่อนที่น้ำยารองพื้นแห้ง หากชั้นรองพื้นแห้งจนมีความเงา หรือไม่มีความเหนียวเหลืออยู่ ให้กำจัดสิ่งปนเปื้อนบนพื้นผิว แล้วทาน้ำยาเพิ่มเติมอีกรอบ

มอร์ต้า

ใช้ Sikafloor®-29 PurCem® LP ลงบนพื้นผิวที่มีการทำในชั้นน้ำยารองพื้นไว้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นทำการอัดแน่นให้ได้ความหนาที่เหมาะสม แล้วจึงทำการแต่งผิวเพื่อเก็บรายละเอียดด้วยเกรียงโค้งสำหรับทำบัว หรือเกรียงปาดเหล็ก ใช้ Sikafloor®-29 PurCem® LP ขณะที่ชั้นรองพื้นยังมีความเหนียว หากชั้นรองพื้นไม่มีความเหนียว หรือแห้งไปแล้ว ให้ทำการลงน้ำยารองพื้นซ้ำ การปัดด้วยแปรงเบาๆ ขณะที่วัสดุยังอยู่ในสภาวะทำงานได้ จะช่วยปิดช่องว่างหรือรูพรุนเล็กๆ บนพื้นผิว จากนั้นทิ้งไว้ให้บ่มตัว อย่างน้อย 24 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส (ดูหัวข้อ ระยะเวลาที่ต้องรอ / ความสามารถในการเคลือบทับได้) ในส่วนของการเคลือบทับส่วนโค้งเว้า ต้องเคลือบด้วย Sikafloor®-31 PurCem® LP 1 หรือ 2 ครั้งเพื่อเคลือบปิดพื้นผิว และเพื่อเพิ่มความสวยงาม

ระยะเวลาที่ต้องรอ / ความสามารถในการเคลือบทับได้

ให้ทำงานขณะที่ชั้นรองพื้นยังมีความเหนียว และให้ลงน้ำยารองพื้นซ้ำ ถ้าต้องรอเวลาการเซ็ทตัวจนชั้นรองพื้นของส่วนที่เหลือนั้นแห้งไปเสียก่อน

ดู “ความชื้นของพื้นผิว” สำหรับประเภทที่เหมาะสม

ก่อนการใช้งาน Sikafloor®-29 PurCem® LP ในภายหลัง อนุญาตให้:

อุณหภูมิต่ำสุดสูงสุด
+10 °C36 ชม.72 ชม.
+20 °C24 ชม.48 ชม.
+30 °C12 ชม.24 ชม.
+35 °C8 ชม.24 ชม.

เวลาเป็นค่าโดยประมาณ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงตามสภาวะแวดล้อม และพื้นผิว โดยเฉพาะอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์

 

การทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์

ทำความสะอาดเครื่องมือด้วย Sika Thinner C ทันทีหลังเสร็จงาน Sikafloor®-29 PurCem® LP ที่แข็งติดอยู่กับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ ต้องกำจัดโดยใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น

การทำความสะอาด

เพื่อรักษาความสวยงามของพื้นหลังการใช้งาน Sikafloor®-29 PurCem® LP ที่หก รั่วไหล เปรอะเปื้อนต่างๆ ต้องรีบกำจัดออกทันที และหมั่นทำความสะอาดด้วยเครื่องขัดขนอ่อน เครื่องถูพื้น เครื่องถูกพื้นแบบแห้ง น้ำแรงดันสูง หรือการทำความสะอาดด้วยเครื่องล้าง ดูดฝุ่น ตามเทคนิคของแต่ละสถานที่  เป็นต้น

ดาวน์โหลดเอกสาร