09/10/2023
งานฉาบบางและตกแต่งพื้นผิว

ผนัง คือส่วนหนึ่งที่สำคัญของบ้านและอาคาร ในแง่ของความสวยงามแล้ว ผนังที่สะอาด และเรียบเนียน จะทำให้บ้านและอาคารดูน่าอยู่มากขึ้น ผนังทาสีไม่ว่าจะผนังเก่า หรือผนังใหม่ อาจพบว่าทาสีผนังแล้วมีลักษณะเป็นเม็ดทราย มีรูตามด รอยแตกลายงา หรือผนังเป็นคลื่น รอยด่าง นอกจากนี้ยังอาจมีรอยแปรง หรือรอยลูกกลิ้งที่มองเห็นได้ สีอาจจะดูหนาหรือบาง ไม่สม่ำเสมอกัน ปัญหากวนใจเหล่านี้ มีสาเหตุและวิธีแก้ไขด้วยเทคนิคที่ซิก้านำมาฝากกัน

เหตุใด ทาสีผนังแล้วไม่เรียบเนียน

การเตรียมพื้นผิวไม่ดี
การเตรียมพื้นผิวก่อนทาสีมีความสำคัญมาก ควรทำความสะอาด ขัดพื้นผิว หรือปรับระดับก่อนการทาสีอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะผนังปูนเก่าต้องขจัดคราบสกปรก สีเดิม รวมทั้งเชื้อราหรือตะไคร่น้ำออกเสียก่อน สำหรับบ้านใหม่ควรปล่อยผนังปูนให้แห้งสนิท หลังจากนั้นทำการสกิมผนังก่อนทาสี เพื่อให้พื้นผิวเรียบเนียนเสมอกัน

สภาพพื้นผิวผนัง
พื้นผิวผนังที่มีปัญหาและข้อพร่องต่างๆ เช่น รูพรุนตามด รอยหยาบเม็ดทราย รอยร้าวต่างๆ ผนังไม่ได้ระดับ หรือความเสียหายอื่นๆ ที่อาจทำให้การจบงานสีไม่เรียบร้อยสวยงาม ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการฉาบผนังไม่เรียบ โดยข้อบกพร่องเหล่านี้ต้องได้รับการซ่อมแซมหรือแก้ไขก่อนการทาสี

คุณภาพของสกิมโค้ท
สกิมโค้ท คุณภาพสูงช่วยให้พื้นผิวเรียบสม่ำเสมอ และปกปิดส่วนที่ไม่สมบูรณ์แบบ เช่น รอยแตกเล็กๆ รอยบุบ หรือความไม่สม่ำเสมอของพื้นผิว ทำให้สีที่ทาสม่ำเสมอและเรียบสวย สกิมโค้ทที่มีคุณภาพดีจะทำงานได้ง่ายกว่า ช่วยให้ฉาบง่าย ลื่นมือ และให้ผิวหน้าที่เรียบเนียน อีกทั้งยังได้รับการออกแบบมาให้เข้ากันได้กับสีทุกสูตร เพื่อให้แน่ใจว่ามีการยึดเกาะที่ดีและลดความเสี่ยงของปัญหาที่เกี่ยวข้องกับงานทาสี เช่น การเกิดฟองอากาศ หรือสีหลุดลอก

การฉาบสกิมโค้ท
การทำงานที่ไม่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นการผสมไม่ตรงตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตกำหนด การเตรียมพื้นผิวที่ไม่ดี การเลือกใช้เครื่องมือไม่ถูกต้องและเหมาะสม การฉาบที่ไม่ถูกวิธี รวมทั้งปริมาณการใช้งานฉาบสกิมโค้ทที่บางหรือหนาจนเกินไป สิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความเรียบเนียนในการทำสกิมโค้ท

้how to fix the walls are unevenly painted.

แก้ไขอย่างไรเพื่อให้ได้ผนังเรียบก่อนการทาสี

สิ่งสำคัญอย่างแรกที่ต้องทำเมื่อเกิดปัญหาทาสีผนังแล้วไม่เรียบ คือ ตรวจสภาพของผนัง และระบุสาเหตุของความไม่เรียบเสียก่อน เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง ถ้าพบรอยแตกร้าวให้ทำการซ่อมแซมรอยแตกร้าวให้เรียบร้อย หากพื้นผิวไม่เรียบเนื่องจากการเตรียมพื้นผิวไม่ดี การฉาบสกิมโค้ทสามารถช่วยให้พื้นผิวเรียบเนียนได้

ขั้นตอนการแก้ไขผนังทาสีไม่เรียบด้วยสกิมโค้ท

ขั้นตอนที่ 1 เช็คสภาพพื้นผิว
ตรวจสอบผนังเพื่อหารอยแตกร้าวหรือความเสียหายของพื้นผิว รอยแตกร้าวขนาดเล็กไม่เกิน 2 มม. ให้อุดโป๊วด้วย LANKO 107 WALL PUTTY กรณีที่รอยแตกร้าวมีขนาดเกิน 2 มม.แต่ไม่เกิน 5 มม. แนะนำให้ใช้ Sika MonoTop – 412 TH หรือ LANKO 732 FACADE REPAIR สำหรับซ่อมแซม

ขั้นตอนที่ 2 ทำความสะอาด
ขจัดคราบสกปรก จารบี และพื้นผิวที่ไม่แข็งแรง เช่น สีที่บวม พอง หรือลอกล่อน ใช้น้ำยาทำความสะอาดอ่อนๆ และน้ำ เพื่อทำความสะอาดผนังอย่างทั่วถึง จากนั้นปล่อยผนังทิ้งไว้ให้แห้งสนิท

ขั้นตอนที่ 3 ฉาบสกิมโค้ท
สกิมโค้ทช่วยปรับระดับและแต่งผิวผนังที่ไม่เรียบ รวมทั้งปกปิดข้อบกพร่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรอยแตกร้าวขนาดเล็ก รูตามด ผิวเม็ดทราย หรือรอยตะเข็บแบบ การฉาบสกิมโค้ทเริ่มจากผสมสกิมโค้ทตามอัตราส่วนที่แนะนำไว้บนบรรจุภัณฑ์ และฉาบลงบนผนังด้วยเกรียงฉาบอย่างน้อย 2 ชั้น หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ชม. แล้วใช้กระดาษทรายขัดเพื่อให้ได้พื้นผิวที่เรียบเนียน

  • แนะนำให้ใช้ LANKO 102 INTERIOR SKIMCOAT หรือ LANKO 103 SKIMCOAT PLUS ที่ฉาบทับผนังทาสีแล้วได้ และสามารถปล่อยเปลือย หรือทาสีทับได้โดยไม่ต้องใช้สีรองพื้น
  • สีที่สามารถฉาบสกิมโค้ททับได้ ต้องเป็นสีสูตรน้ำ เช่น สีน้ำพลาสติก สีน้ำอะคริลิค สีน้ำกึ่งเงา ไม่แนะนำให้ฉาบทับบนสีน้ำมัน

ขั้นตอนที่ 4 ทาสีใหม่
เมื่อพื้นผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอแล้วให้ทาสีบ้านใหม่ด้วยสีคุณภาพสูงและแปรงหรือลูกกลิ้งคุณภาพดี โดยทาเคลือบบางๆ ให้ทั่วถึง และปล่อยให้ชั้นแรกแห้งสนิทก่อนทาชั้นถัดไป หลีกเลี่ยงการทาสีในที่โดนแสงแดดโดยตรง หรือสภาวะที่มีความชื้นสูงเพราะอาจส่งผลต่อการทาสีได้

้how to fix the walls are unevenly painted.

จะเห็นได้ว่าการเตรียมพื้นผิว สภาพพื้นผิวผนัง คุณภาพของสกิมโค้ท และการฉาบสกิมโค้ทเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อความเรียบของผนังที่ทาสี การใช้วัสดุและอุปกรณ์ที่คุณภาพสูง รวมทั้งการทำงานอย่างถูกวิธี ช่วยให้พื้นผิวที่ทาสีเรียบเนียน สวยงาม และมีอายุการใช้งานยาวนาน