30/06/2023
งานฉาบบางและตกแต่งพื้นผิว

บ้านเก่าที่เราอยู่อาศัยมาเป็นเวลานานย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา ไม่ว่าจะเสื่อมสภาพหรือทรุดโทรม แม้กระทั่งความต้องการพื้นที่ใช้สอยที่เปลี่ยนไป ความต้องการตกแต่งบ้านเพื่อให้น่าอยู่และสวยงามมากขึ้น หรือการซื้อบ้านมือสองเพื่อนำมาปรับปรุง ซึ่งแน่นอนสิ่งที่ต้องทำ คือ การรีโนเวทหรือเปลี่ยนบ้านหลังเก่านั้นให้กลายเป็นบ้านหลังใหม่ที่ไม่เสื่อมสภาพ วันนี้เรามีเกร็ดความรู้ในการเปลี่ยนผนังปูนเก่าให้เหมือนผนังใหม่มาฝาก

ลักษณะของผนังปูนเก่า

ผนังปูนเก่าที่เสื่อมสภาพอาจเกิดปัญหาได้หลากหลาย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุของบ้าน วิธีการก่อสร้าง การดูแลรักษา และสภาพแวดล้อม ซึ่งปัญหาที่จะเกิดขึ้นอาจมีหลายอย่าง เช่น ผนังแตกร้าว สีลอกล่อน มีคราบเชื้อราและตะไคร่น้ำ สำหรับขั้นตอนในการปรับปรุงผนังปูนเก่ามีอะไรบ้าง เรามาดูกัน

ผนังปูนเก่า

ขั้นตอนการปรับปรุงผนังปูนเก่า

1. ตรวจสอบสภาพพื้นผิว: ก่อนเริ่มงานปรับปรุงต้องทำการตรวจสอบ และประเมินสภาพของผนังปูนเก่า เพื่อดูสภาพของความเสียหายที่จำเป็นต้องซ่อมแซมหรือปรับปรุง เช่น รอยร้าว การรั่วซึม ความชื้น

2. การซ่อมแซมพื้นผิวผนัง: ขจัดสีที่หลุดล่อนเสื่อมสภาพออกโดยใช้เกรียงแซะหรือเครื่องช่วยขัด ซ่อมรอยแตกร้าวขนาดเล็ก เช่น รอยหัวตะปู ร่อง ฟองอากาศ โดยทำการโป๊วอุดรอยด้วย LANKO 107 WALL PUTTY ฉาบซ่อมรอยแตก รูพรุน รูโพรง บริเวณผิวหน้าด้วย Sika Repair Mortar, LANKO 731 STRUCTURE REPAIR หรือ LANKO 732 FAÇADE REPAIR จากนั้นใช้กระดาษทรายขัดพื้นผิวให้เรียบเนียน

3. ทำความสะอาดพื้นผิว: หลังขจัดสีที่หลุดล่อนและซ่อมแซมรอยแตกร้าวแล้ว ขัดล้างทำความสะอาดพื้นผิวของผนังปูนเก่า เพื่อกำจัดเศษผง สิ่งสกปรก และสิ่งปนเปื้อนอื่นๆ หากพื้นผิวมีเชื้อราหรือตะไคร่น้ำ หลังขัดล้างและพื้นผิวแห้งดีแล้ว ทาด้วยผลิตภัณฑ์ Sikagard®-700 S หรือ Sikagard®-705 L เพื่อป้องกันความชื้น เชื้อราและตะไคร่น้ำ โดยทาทิ้งไว้อย่างน้อย 4 ชั่วโมง

4. เพิ่มการยึดเกาะของพื้นผิว: เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของปูนฉาบตกแต่งกับผนังฉาบปูนให้ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ใช้ Sikadur -32 TH ทาอย่างน้อย 1 รอบ และทิ้งไว้ให้แห้ง เป็นเวลา 10-15 นาที ก่อนทำการฉาบสกิมโค้ท

5. สกิมผนังให้เรียบสวย: ตกแต่งพื้นผิวผนังให้เรียบเนียนและสวยเหมือนใหม่ ด้วย สกิมโค้ท ที่จะช่วยให้ผนังหรือพื้นผิวต่างๆ มีความเรียบเนียน สวยงาม ปราศจากผิวที่ขรุขระ และยังช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการฉาบปูนได้อีกด้วย การฉาบสกิมโค้ทควรทำอย่างน้อย 2 ชั้น การฉาบแต่ละชั้นควรทิ้งระยะห่างเป็นเวลา 10 - 45 นาที และปล่อยไว้ให้แห้งอย่างน้อย 24 ช.ม. ก่อนใช้กระดาษทรายขัดแต่ง จากนั้นเช็ดทำความสะอาดก่อนทำการตกแต่งด้วยวัสดุปิดผิว (เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด)

การตกแต่งผนังบ้านใหม่ด้วยสกิมโค้ท

หลังจากซ่อมแซมผนังบ้านเก่าที่เสื่อมสภาพให้เหมือนบ้านใหม่ที่น่าอยู่แล้ว การดีไซน์หรือออกแบบตกแต่งผนังห้องเป็นงานที่สนุกและสร้างสรรค์ โดยสามารถแสดงถึงเอกลักษณ์และสไตล์ส่วนตัวของแต่ละคน เนื่องจากผนังบ้านเป็นส่วนที่สามารถดึงดูดสายตาของผู้พบเห็น หรือเปลี่ยนอารมณ์และบรรยากาศให้พื้นที่ภายในบ้านได้เป็นอย่างดี ใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะตกแต่งผนังบ้านใหม่ยังไงดี เรามีไอเดียตกแต่งผนังบ้านมาฝาก หลังจากอ่านแล้วเชื่อว่าหลายๆ คน น่าจะได้ไอเดียกลับไปตกแต่งผนังบ้านทั้งภายในและภายนอกอย่างแน่นอน

ปล่อยเปลือย: หลังทำการตกแต่งพื้นผิวด้วยสกิมโค้ทเพื่อให้ผิวเรียบหรือปกปิดรอยแตกร้าวแล้ว สามารถปล่อยโชว์พื้นผิวผนัง ซึ่งเป็นการรีโนเวทตกแต่งผนังที่ไม่ยุ่งยาก การสกิมผนังด้วยสีขาวให้เนื้อสีขาวเรียบเนียน ใช้แทนการทาสีพื้นขาวได้เลย ส่วนการฉาบด้วยสีเทาเป็นแบบที่นิยมใช้เป็นลูกเล่นเพิ่มสีสันและความน่าสนใจในการตกแต่งผนังห้อง ด้วยการสร้างสรรค์ลวดลายตามแบบที่ต้องการ เพื่อให้ได้รูปแบบผนังที่ไม่ซ้ำใคร

ผนังปล่อยเปลือยหลังทำสกิมโค้ท

ทำผนังลอฟท์: เทรนด์การตกแต่งผนังห้องสุดฮิตที่เรียกว่า "ผนังห้องสไตล์ลอฟท์" ซึ่งทำโดยการก่ออิฐฉาบปูนธรรมดา แล้วใช้การฉาบตกแต่งพื้นผิวด้วยปูนฉาบที่เรียกว่า “ปูนลอฟท์” เพื่อให้เกิดลวดลายคล้ายปูนเปลือย การทำลอฟท์เป็นการตกแต่งผนังบ้านที่ทำได้ง่ายๆ เพียงผสมน้ำ ราคาไม่แพง อีกทั้งสามารถทำได้บนหลายพื้นผิว ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต ปูนฉาบ สมาร์ทบอร์ด และไม้เทียม

ผนังสไตล์ลอฟท์

ทาสีผนัง: เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คุณสามารถเลือกเฉดสีที่เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ของคุณ หรือเพิ่มสีสันให้กับพื้นที่ของคุณได้ง่ายๆ การฉาบสกิมโค้ทเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนการทาสีผนัง ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ทำให้ทาสีได้ง่ายขึ้น พื้นผิวมีความเรียบเนียน และปกปิดข้อบกพร่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

ผนังตกแต่งด้วยการทาสี