สกิมโค้ท (Skim Coat) ตัวช่วยแก้ปัญหาผนังไม่เรียบเนียน

ผงซีเมนต์ เป็นสกิมโค้ทที่ได้รับความนิยมมากจากช่าง เนื่องจากทำงานง่าย มีราคาถูก การใช้งานต้องผสมกับน้ำก่อนในอัตราส่วนที่ระบุไว้
สกิมโค้ทประเภทผงซีเมนต์ของแลงโก้ เลือกใช้ LANKO 110 Skimcoat Grey หรือ LANKO 110 Skimcoat White Extra

โพลิเมอร์หรืออะคริลิก ต้องผสมกับปูนซีเมนต์ โดยที่ไม่ต้องผสมน้ำเพิ่ม เลือกใช้สกิมโค้ทแบบโพลิเมอร์พิเศษ Lanko 101

โพลิเมอร์หรืออะคริลิกพร้อมใช้งาน เปิดฝาถังปั่นให้เข้ากันก็สามารถใช้งานได้ทันที ไม่ต้องผสมปูนซีเมนต์หรือน้ำเพิ่ม สะดวกรวดเร็ว แนะนำสกิมโค้ทของแลงโก้ Lanko 102, Lanko 103

1. เตรียมพื้นผิว พื้นผิวผนังก่อนทำการสกิมโค้ทต้องแข็งแรง หากพื้นผนังบริเวณนั้นไม่แข็งแรงต้องสกัดออก และทำความสะอาดพื้นผิว ไม่ให้มีสิ่งสกปรกต่างๆ และรอให้แห้ง

ข้อแนะนำ
หากพบเจอรอยแตกร้าวขนาดไม่เกิน 4 ม.ม. (ซึ่งไม่ใช่รอยร้าวที่เกิดจากปัญหาโครงสร้าง) ให้โป๊วอุดรอยต่อ ด้วยหมั่นโป๊ว
ก่อนการสกิมโค้ท หรือหากพื้นผิวไม่เสมอกัน มีความต่างกันมาก ถึง 1-10 ม.ม. ให้ฉาบด้วยปูนปรับระดับก่อนทำสกิมโค้ท โดยเลือกใช้ LANKO 111 หรือ LANKO 113

2. ผสมผลิตภัณฑ์สกิมโค้ท ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของสกิมโค้ทรุ่นที่คุณเลือกใช้ ว่าต้องผสมกับน้ำ ผสมกับปูนซีเมนต์ หรือเป็นแบบพร้อมใช้งาน ปั่นผสมตามอัตราส่วนที่กำหนด

3. ฉาบสกิมโค้ท หรือสกิมผนัง ทำการฉาบสกิมโค้ทลงบนผนัง โดยใช้เกรียงฉาบ โดยฉาบอย่างน้อยสองชั้น ฉาบชั้นที่หนึ่งเพื่อปรับพื้นผิว ปิดร่องรอยต่างๆ บนผนัง ฉาบรอบแรกทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วฉาบรอบที่สองให้เรียบเนียน

ข้อแนะนำ
สามารถฉาบเก็บรอยต่อ เพิ่มความเรียบของผนังได้ ช่วยลดขั้นตอนในการขัดด้วยกระดาษทราย

4. ขัดพื้นผิวด้วยกระดาษทราย หลังจากทิ้งผนังให้แห้งดีแล้ว 24 ช.ม. ใช้กระดาษทรายขัดให้เรียบ เพื่อให้ได้พื้นผิวที่เงา เรียบเนียนสวยงามมากขึ้น

5. ทาสีลงบนผนัง หลังจากขั้นตอนการสกิมโค้ทแล้ว มักจะตามด้วยการทาสีรองพื้น และทาสีจริงลงบนผนัง สกิมโค้ทประเภท
โพลิเมอร์หรืออะคริลิกพร้อมใช้งาน สามารถทาสีจริงลงบนผนังได้เลย โดยไม่ต้องใช้สีรองพื้น ช่วยประหยัดต้นทุนได้อีกทางหนึ่ง