LANKO 706 CALSEA
ปูนนอนชริ้งค์เกราท์ ชนิดทนซัลเฟต และรับกำลังอัดสูง
ปูนนอนชริ้งค์เกราท์ ผสมสำเร็จ
- รับกำลังอัดสูงถึง 650 KSC
- ทนทานต่อน้ำทะเล และน้ำที่มีส่วนผสมของซัลเฟต ปริมาณสูงได้อย่างดีเยี่ยม
- ไหลตัวได้ดี
- เซ็ตตัวเร็ว
- ไม่หดตัว
การใช้งาน
- งานนอกชายฝั่ง
- งานบริเวณทะเล
- งานเทฐานรากของเครื่องจักรที่ต้องรับน้ำหนักมาก
- งานยึดเหล็กเส้นและสลักเกลียว
- งานอุดรอยต่อ
- งานประกอบแผ่นคอนกรีตหล่อสำเร็จ
- งานซ่อมโครงสร้างคอนกรีต
คุณลักษณะ/คุณประโยชน์
- รับกำลังอัดสูงถึง 650 KSC
- ทนทานต่อน้ำทะเล และน้ำที่มีส่วนผสมของซัลเฟต ปริมาณสูงได้อย่างดีเยี่ยม
- ไหลตัวได้ดี
- เซ็ตตัวเร็ว
- ไม่หดตัว
บรรจุภัณฑ์
25 กิโลกรัม / ถุง
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
อายุผลิตภัณฑ์
12 เดือน นับจากวันที่ผลิต หากจัดเก็บอย่างถูกต้อง ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย
การเก็บรักษา
จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง และไม่โดนแสงแดดโดยตรง
ขนาดอนุภาคสูงสุด
2.5 มิลลิเมตร
ความหนาแน่น
1.2 – 1.3 กิโลกรัม / ลิตร
ค่ากำลังรับแรงอัด
ผสมแบบข้น (MPa) | ผสมแบบเหลว (MPa) | |
1 วัน | > 30 | > 10 |
3 วัน | > 50 | > 30 |
7 วัน | > 60 | > 40 |
28 วัน | > 65 | > 55 |
ค่ากำลังรับแรงดัด
ผสมแบบข้น (MPa) | ผสมแบบเหลว (MPa) | |
3 วัน | > 6 | > 8 |
7 วัน | > 7 | > 9 |
28 วัน | > 8 | > 10 |
การหดตัว
< 0.4% | (ASTM C1090) |
การใช้งาน
อัตราส่วนผสม
การผสม | LANKO 706 CALSEA | หินเกล็ด 3/8" | น้ำ (ลิตร) |
ผสมแบบข้น | 1 ถุง 25 กิโลกรัม | - | 3 - 3.25 |
ผสมแบบเหลว | 1 ถุง 25 กิโลกรัม | - | 3.5 - 4.4 |
ผสมกับหินเกล็ด | 1 ถุง 25 กิโลกรัม | 10 ลิตร | 3.5 - 4.4 |
ระยะเวลาการใช้งานหลังผสม
30 นาที
ระยะเวลาแข็งตัว
200 นาที
ระยะเวลาเริ่มต้นแข็งตัว
70 นาที
ปริมาณการใช้
ประมาณ 2 กิโลกรัม ของซีเมนต์ ต่อปูน 1 ลิตร
1 ลูกบาศก์เมตร ใช้ 77 ถุง x 25 กิโลกรัม และน้ำ 300 ลิตร
การผสม
- ปริมาณน้ำ และอัตราส่วนที่ใช้ขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งาน โดยอ้างอิงจากตารางสัดส่วนการผสม
- ผสมส่วนผสมโดย ใช้เครื่องผสมโดยมีรอบประมาณ 500 รอบ/นาที
- ระยะเวลาการผสมประมาณ 3 นาที หรือจนส่วนผสม เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน
- พักส่วนผสมทิ้งไว้ 1 - 3 นาที
- หลังจากผสมแล้ว ห้ามเติมน้ำเพิ่ม
การใช้งาน
ไมโครคอนกรีต
-
ไมโครคอนกรีต ทำได้โดยการผสมหินเกล็ด 3/8" ล้างสะอาด 10 ลิตร กับ LANKO 706 CALSEA 25 กก. 1 ถุง
-
ผสมต่อเนื่องอย่างน้อย 3 นาที หรือจนส่วนผสมเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน แนะนำให้ใช้เครื่องปั่นผสมเมื่อทำการผสมหินเกล็ด
งานฝังเหล็กหรือสลักเกลียว
-
รูเจาะจะต้องมีขนาดใหญ่กว่าวัสดุที่ฝังอย่างน้อย 20 – 30 มม.
-
รูเจาะต้องลึกอย่างน้อย 10 - 20 เท่าของขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ของเหล็ก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการออกแบบ และความแข็งแกร่ง ของคอนกรีต
-
ถ้ารูเจาะมีขนาดใหญ่มากกว่า 50 มม. สามารถใช้การผสมแบบผสม กับหินเกล็ดได้โดยขึ้นอยู่กับลักษณะของการทำงานด้วยว่า สามารถเท ได้หรือไม่ เนื่องจากการผสมหินเกล็ด วัสดุจะสูญเสียคุณสมบัติ ในการไหลตัว อาจต้องใช้การกระทุ้ง เพื่อสามารถเติมเต็มช่องว่างได้
-
พื้นผิวคอนกรีตต้องบ่มจนอิ่มน้ำ และวัสดุต้องไม่มีคราบน้ำมัน หรือจารบี
-
พื้นผิวต้องไม่มีน้ำขังขณะทำงาน
-
จัดวัสดุที่ต้องการฝังให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ โดยยึดให้มั่นคง ไม่ให้ขยับขณะทำงาน
-
เทวัสดุที่ผสมแล้วลงในรูจนเต็ม
การเทฐาน
-
เข้าแบบโดยรอบฐาน แบบต้องแข็งแรงและทำการปิดรอยต่อ เพื่อป้องกันการรั่วไหล
-
ฐานที่มีขนาดใหญ่อาจต้องทำกล่องเข้าแบบสำหรับเท เพื่อให้ มีน้ำหนักวัสดุมากพอที่จะดันวัสดุให้ไหล ตลอดความยาว ของฐาน โดยกล่องอาจมีความสูงประมาณ 50 มม. จากฐานและมุมเฉียง 45 องศา เพื่อช่วยในการไหลของวัสดุ และป้องกันการเกิดโพรงอากาศ ในแบบ
-
ระยะห่างของแบบจากขอบฐานประมาณ 50 มม. โดยรอบ และสูงกว่าฐานอย่างน้อย 25 มม.
-
ควรใช้วัสดุที่ไม่มีการดูดซึมในการเข้าแบบ หากจำเป็นให้ใช้ น้ำมันเพื่อป้องกันปัญหาปูนติดแบบเมื่อทำการถอดแบบ
-
บ่มผิวคอนกรีตรวมทั้งแบบให้อิ่มน้ำ และทำการซับน้ำออก โดยไม่ให้มีน้ำนองก่อนการทำงาน
-
หลังจากขั้นตอนการผสม ให้เทวัสดุก่อนที่จะเริ่มแข็งตัว โดยการทำงานในขณะที่อุณหภูมิสูงจะเร่งการแข็งตัวของวัสดุ
-
การเทให้เทจากด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น เพื่อป้องกันการเกิด โพรงอากาศ
-
ถ้าจำเป็นอาจต้องใช้การกระทุ้ง เพื่อให้วัสดุสามารถเติมเต็ม ช่องว่างได้ ไม่ควรใช้เครื่องจี้ เพราะจะทำให้วัสดุแยกชั้น
วิธีการบ่ม
LANKO 706 CALSEA เมื่อบ่มตัวจะเกิดการหดตัวเล็กน้อย เพื่อป้องกันการแข็งตัวก่อนถึงเวลาที่เหมาะสม ต้องคอยรักษา พื้นผิวให้ชุ่มชื้น หากสัมผัสกับแสงแดดจัดและลมแรง แนะนำ ให้ทำการบ่มตามมาตรฐานที่เหมาะสม
การทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์
ทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์ด้วยน้ำสะอาดทันที หลังการ ใช้งานส่วนมอร์ต้าที่แข็งติดกับเครื่องมือและอุปกรณ์ ต้องกำจัดออก ด้วยใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น