Sikaflex® PRO-3 SL
วัสดุยาแนวรอยต่อประสิทธิภาพสูง ชนิดปรับระดับด้วยตัวเอง สำหรับงานพื้นและงานวิศวกรรมโยธา
Sikaflex® PRO-3 SL เป็นวัสดุยาแนวส่วนประกอบเดียวชนิดยืดหยุ่น บ่มด้วยความชื้น สามารถปรับระดับด้วยตัวเอง มีความทนทานต่อแรงกล และสารเคมีสูง
- รองรับการเคลื่อนตัว (ขยายตัว - หดตัว) ± 35%
- ทนทานต่อแรงทางกล และทนต่อสารเคมีสูงมาก
- บ่มตัวโดยไม่เกิดฟองอากาศ
- ปรับระดับด้วยตัวเอง
- ยึดเกาะได้ดีกับวัสดุก่อสร้างทุกประเภท
- ปราศจากสารทำละลาย
- ปล่อยสารระเหยในปริมาณต่ำ
การใช้งาน
Sikaflex® PRO-3 SL ได้รับการออกแบบมาสำหรับใช้งานรอยต่อเคลื่อนตัวในแนวนอนและรอยต่อพื้น ทางเท้าและพื้นที่สัญจร (เช่น ลานจอด, ที่จอดรถ) โกดังและพื้นที่การผลิต การใช้งานในอุตสาหกรรมอาหาร กระเบื้องเซรามิก เช่น ในอาคารสาธารณะ ฯลฯ และรอยต่อพื้นในการก่อสร้างอุโมงค์คุณลักษณะ/คุณประโยชน์
- รองรับการเคลื่อนตัว (ขยายตัว - หดตัว) ± 35%
- ทนทานต่อแรงทางกล และทนต่อสารเคมีสูงมาก
- บ่มตัวโดยไม่เกิดฟองอากาศ
- ปรับระดับด้วยตัวเอง
- ยึดเกาะได้ดีกับวัสดุก่อสร้างทุกประเภท
- ปราศจากสารทำละลาย
- ปล่อยสารระเหยในปริมาณต่ำ
บรรจุภัณฑ์
บรรจุในหลอดนิ่ม ขนาด 600 มิลลิลิตร (20 หลอด/ กล่อง)
บรรจุในหลอดนิ่ม ขนาด 1800 มิลลิลิตร (6 หลอด/ กล่อง)
บรรจุในถัง ปริมาณ 23 ลิตร
ลักษณะของสินค้า/สี
สีดำ
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม
- EMICODE EC1PLUS R
- LEED v4 EQc 2: การปล่อยสารระเหยต่ำ
การรับรองมาตรฐาน
- EN 15651-4 PW EXT-INT CC 25 HM
- ISO 11600 F 25 HM
- ASTM C 920 class 35
- ISEGA certificate สำหรับการใช้งานในพื้นที่อาหาร
- การสัมผัสน้ำดื่ม BS 6920
- ทนต่อน้ำเสียตามมาตราฐานของ DIBt
- ทนทานต่อน้ำมันดีเซลและน้ำมันเครื่องบินตามมาตราฐานของ DIBt
ส่วนประกอบหลักทางเคมี
โพลียูรีเทน i-Cure® Technology
อายุผลิตภัณฑ์
15 เดือน นับจากวันที่ผลิต หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย
การเก็บรักษา
จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง และไม่โดนแสงแดดโดยตรง ที่อุณหภูมิ +5°C ถึง +25°C
ความหนาแน่น
~ 1.40 กก./ลิตร | (ISO 1183-1) |
ค่าความแข็ง Shore A
ประมาณ 28 (หลังจาก 28 วัน) | (ISO 868) |
ค่าโมดูลัสแรงดึงคงที่
~0.45 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร ณ อัตราการยืดตัว 100 % (ที่อุณหภูมิ 23 °C) | (ISO 8339) |
~0.80 นิวตัน/ตารางมิลลิเมตร ณ อัตราการยืดตัว 100 % (ที่อุณหภูมิ −20 °C) |
อัตรารองรับการเคลื่อนตัว
±25 % | (ISO 9047) |
±35 % | (ASTM C 719) |
อัตราการหดตัวกลับ
~90 % | (ISO 7389) |
ความต้านทานต่อการฉีกขาด
~8.0 นิวตัน/มิลลิเมตร | (ISO 34) |
อุณหภูมิการใช้งาน
−40 °C ถึง +70 °C
ความต้านทานต่อสารเคมี
Sikaflex® PRO-3 SL สามารถทนต่อน้ำ น้ำทะเล ด่างเจือจาง สารละลายซีเมนต์ และสารซักฟอกที่ละลายน้ำ น้ำมันดีเซล และน้ำมันเครื่องบินตามมาตรฐานของ DIBt
Sikaflex® PRO-3 SL ไม่ทนต่อแอลกอฮอล์ กรดอินทรีย์ ด่างเข้มข้น และกรดเข้มข้น รวมทั้งไฮโดรคาร์บอน
การออกแบบแนวรอยต่อ
ความกว้างของรอยต่อต้องออกแบบให้เหมาะสมกับการเคลื่อนที่ของรอยต่อ และความสามารถในการเคลื่อนทีของวัสดุยาแนว ความกว้างของรอยต่อต้อง ≥ 10 มม. และ ≤ 35 มม. ต้องรักษาอัตราส่วนความกว้างต่อความลึก 1:0.8 (สำหรับข้อยกเว้น โปรดดูตารางด้านล่าง)
ความกว้างของรอยต่อมาตรฐาน สำหรับรอยต่อระหว่างชิ้นส่วนคอนกรีตสำหรับงานภายใน:
ระยะรอยต่อ [เมตร] | ความกว้างรอยต่อต่ำสุด [มม.] | ความลึกของรอยต่อต่ำสุด [มม.] |
2 | 10 | 10 |
4 | 10 | 10 |
6 | 10 | 10 |
8 | 15 | 12 |
10 | 18 | 15 |
ความกว้างของรอยต่อมาตรฐาน สำหรับรอยต่อระหว่างชิ้นส่วนคอนกรีตสำหรับงานภายนอก:
ระยะรอยต่อ [เมตร] | ความกว้างรอยต่อต่ำสุด [มม.] | ความลึกของรอยต่อต่ำสุด [มม.] |
2 | 10 | 10 |
4 | 15 | 12 |
6 | 20 | 17 |
8 | 28 | 22 |
10 | 35 | 28 |
แนวรอยต่อทั้งหมดต้องออกแบบและกำหนดขนาดให้เหมาะสมเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องก่อนทำการยาแนว
ข้อมูลพื้นฐานในการคำนวณความกว้างของรอยต่อที่จำเป็นได้แก่ ประเภทโครงสร้าง ขนาดความกว้าง และลึกของรอยต่อ ค่าตัวเลขเชิงเทคนิคของกาวยาแนวรอยต่อ กาวยาแนวรอยต่อ และการสัมผัสของกาวยาแนว
กรณีรอยต่อกว้างกว่าปกติ กรุณาติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของบริษัทฯ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
การใช้งาน
การไหลย้อย (การตกท้องช้าง)
ไหลปรับระดับได้เอง สามารถใช้บนพื้นที่ลาด ≤ 3%
อุณหภูมิแวดล้อม
+5+5 °C ถึง +40 °C, ต่ำสุด 3 °C เหนือจุดน้ำค้าง
อุณหภูมิของพื้นผิว
+5 °C ถึง +40 °C
วัสดุเสริมร่อง
เสริมร่องแนวรอยต่อด้วยโฟมประเภทโพลีเอทีลี
อัตราการบ่ม
~3.5 มม. /24 ชั่วโมง (ที่อุณหภูมิ 23 °C / 50 % r.h.) | (CQP 049-2) |
เวลาในการแข็งตัว
~100 นาที (ที่อุณหภูมิ 23 °C / 50 % r.h.) | (CQP 019-1) |
ปริมาณการใช้
ความยาวรอยต่อ | ความกว้างรอต่อ (มม.) | ความลึกรอยต่อ (มม.) |
6 | 10 | 10 |
3.3 | 15 | 12 |
1.9 | 20 | 16 |
1.2 | 25 | 20 |
0.8 | 30 | 24 |
การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวที่จะทำการยาแนวจะต้องสะอาด แห้ง แน่น และปราศจากคราบน้ำมัน จาระบี ฝุ่น เศษปูนที่หลุดล่อน และไม่แข็งแรง Sikaflex® PRO-3 SL สามารถยึดเกาะได้ โดยไม่ต้องใช้น้ำยารองพื้น อย่างไรก็ตามเพื่อการยึดเกาะที่เหมาะสม และการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูง เช่น รอยต่อที่มีความเค้นสูง รอยต่อที่ต้องสัมผัสกับสภาพอากาศที่รุนแรง หรือรอยต่อที่ต้องสัมผัสน้ำ และมีน้ำแช่ขัง ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการลงน้ำยารองพื้น และ/หรือการเตรียมพื้นผิวก่อนการยาแนวดังต่อไปนี้:
พื้นผิวที่ไม่มีรูพรุน
พื้นผิวประเภทอลูมิเนียม อลูมิเนียมชุบอโนไดซ์ เหล็กสเตนเลส พีวีซี เหล็กชุบกัลวาไนซ์ โลหะผ่านการพ่นเคลือบด้วยสีฝุ่น หรือกระเบื้องเคลือบผิวหน้า ให้ทำความสะอาด และเตรียมพื้นผิวโดยการทา Sika® Aktivator-205 บนพื้นผิวด้วยผ้าสะอาดก่อนที่จะทำการยาแนว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 15 นาที (ไม่เกิน 6 ชั่วโมง)
พื้นผิวประเภทโลหะอื่นๆ เช่น ทองแดง ทองเหลือง และไททาเนียม-สังกะสี ต้องทำความสะอาด และเตรียมพื้นผิวโดยการทา Sika® Aktivator-205 บนพื้นผิวด้วยผ้าสะอาด ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้ง หลังจากนั้นให้ใช้แปรงทา Sika® Primer-3 N และรออีก > 30 นาที (<8 ชั่วโมง) ก่อนแนวยารอยต่อ
พีวีซีจะต้องทำความสะอาดและเตรียมผิวก่อนโดยใช้ Sika® Primer-215 ทาด้วยแปรง ก่อนแนวยารอยต่อ ให้รอเวลา > 30 นาที (<8 ชั่วโมง)
พื้นผิวที่มีรูพรุน
พื้นผิวประเภทคอนกรีต คอยกรีตมวลเบา ปูนฉาบ มอร์ต้า และอิฐก่อปูนฉาบ ต้องลงน้ำยารองพื้นด้วย Sika® Primer-3 N โดยใช้แปรงทา และปล่อยทิ้งไว้ให้สารแห้งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที (ไม่เกิน 8 ชม.)
หากต้องการข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม กรุณาติดต่อฝ่ายบริการด้านเทคนิคของบริษัทฯ
หมายเหตุ น้ำยารองพื้นและน้ำยากระตุ้นผิว เป็นสารเร่งการยึดเกาะ ไม่สามารถใช้ทดแทนในการทำความสะอาดพื้นผิว และไม่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแรงของพื้นผิวได้
การทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์
ทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งหมดทันทีด้วย Sika® Remover-208
วัสดุแข็งตัวแล้วสามารถเอาออกได้โดยใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น