Sikaflex® PRO-3

• เป็นไปตามมาตรฐาน LEED V4 EQc2 : วัสดุที่ปล่อยสารระเหย ในปริมาณที่ต่ำ
• เป็นไปตามมาตรฐาน GEV-Emicode EC1PLUS การจำแนกระดับการปล่อยสารระเหย หมายเลขใบอนุญาต 3206/20.10.00

• ได้รับการรับรองว่าเป็นกาวยาแนวรอยต่อพื้นอาคาร พื้นสำหรับ ทางเดิน (ไม่ใช่งานโครงสร้าง) ตามมาตรฐานเครื่องหมาย ซีอี และหนังสือยืนยันประสิทธิภาพของวัสดุ EN 15651-4 หมวดหมู่: PW EXT-INT CC 25 HM
• ได้รับการรับรองว่าเป็นกาวยาแนวรอยต่อชนิดเย็น ตามมาตรฐาน เครื่องหมาย ซีอี และหนังสือยืนยันประสิทธิภาพของวัสดุ EN 14188-2  
• ต้านทานต่อสารเคมี ตามมาตรฐาน DIN EN 14187, SKZ รายงานการทดสอบเลขที่ 127980/17-IV
• ผ่านการทดสอบด้านประสิทธิภาพ ตามมาตรฐาน EN 15651-4, SKZ รายงานการทดสอบเลขที่ 94931/11-I-E
• ต้านทานต่อ ชีวภาพ ตามมาตรฐาน ISO 846, Fraunhofer หมายเลขหนังสือรับรอง SI 1103-544
• ได้รับการรับรองว่าเป็นกาวยาแนวรอยต่อชนิดเย็น ตามมาตรฐาน EN 14188-2, SKZ รายงานเลขที่ 94931/11-IV
• ข้อกำหนดว่าด้วยการเกิดรอยคราบ ตามมาตรฐาน ASTM C 1248-04, SKZ รายงานเลขที่ 98947/11-V
• ข้อกำหนดว่าด้วยการเกิดรอยคราบ ตามมาตรฐาน ISO 16938-1, SKZ รายงานเลขที่ 98947/11-II
• ได้รับมาตรฐาน ISO 11600 F-class 25 HM, SKZ รายงานเลขที่ 94931/11- II
• ได้รับการรับรองว่าเป็นกาวยาแนวรอยต่อที่มีความยืดหยุ่น ตามมาตรฐาน ASTM C920-11 Class 35, ASTM รายงานเลขที่ 0314920 - SIKA
• พฤติกรรมการเคลื่อนที่ ตามมาตรฐาน EN 13130, CEN/TS 14234, ISEGA หนังสือรับรองเลขที่ 48644 U 18
• ได้มาตรฐาน Outgassing TVOC, CSM procedures, Fraunhofer หนังสือรับรองเลขที่ SI 1103-544
• ต้านทานต่อน้ำมันดีเซล และเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่น ตามแนวทางการทดสอบของ DIBt, SKZ รายงานเลขที่ 94931/11-V
• ทดสอบว่าสามารถใช้ในระบบน้ำเสีย ตามแนวทางการทดสอบของ DIBt, SK รายงานเลขที่ 94931/11-III
• ข้อบังคับเรื่องน้ำ ตามมาตรฐาน BS 6920, UKAS รายงานเลขที่ M 106170

โพลียูรีเทน i-Cure® Technology

15 เดือน นับจากวันที่ผลิต หากจัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิด สนิทและไม่เสียหาย

จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง และไม่โดนแสงแดดโดยตรง ที่อุณหภูมิ +5°C ถึง +25°C

EN 15651-4: PW EXT-INT CC 25 HM

EN 14188-2 - วัสดุคั่นรอยต่อ และกาวยาแนว - กาวยาแนวรอยต่อชนิดเย็น

การต้านทานต่อสารเคมี ให้ดูได้จากรายงานต่อไปนี้: ค่าความต้านทานสารเคมี มาตรฐาน DIN EN 14187 Sikaflex® PRO-3 (SL), SKZ รายงานเลขที่ 127980/17-IV

ส่วนการต้านทานน้ำและน้ำเค็ม ให้ดูได้จากรายงานต่อไปนี้: การทดสอบประสิทธิภาพ EN 15651-4, Sikaflex® PRO-3, SKZ รายงานเลขที่  94931/11-I-E 

−40°C ถึง +70°C

ต้องออกแบบรอยต่อให้มีความกว้างพอกับการเคลื่อนตัวของกาวยาแนวรอยต่อ ความกว้างของรอยต่อต้องมากกว่า 10 มม. และไม่เกิน 40 มม. อัตราส่วนความกว้างต่อความลึกอยู่ที่ 1:0.8 (อาจมีข้อยกเว้น ดูได้จากตารางด้านล่าง)

ความกว้างรอยต่อโดยทั่วไประหว่างชิ้นคอนกรีต สำหรับการใช้งานภายใน

ความกว้างรอยต่อโดยทั่วไประหว่างชิ้นคอนกรีต สำหรับการใช้งานภายนอก

^{แนวรอยต่อทุกแนวจะต้องออกแบบและกำหนดขนาดให้เหมาะสมเป็นไปตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้องก่อนทำการยาแนว}

^{ข้อมูลพื้นฐานในการคำนวณความกว้างของรอยต่อที่จำเป็นได้แก่ ประเภทโครงสร้าง ขนาดความกว้างและลึก ของรอยต่อ ค่าตัวเลขเชิงเทคนิคของกาวยาแนวรอยต่อ กาวยาแนวรอยต่อ และการสัมผัสของกาวยาแนว}

^{กรณีรอยต่อที่กว้างกว่าปกติ กรุณาติดต่อฝ่ายบริการทางเทคนิคของบริษัทฯ เพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม}

เสริมร่องแนวรอยต่อด้วยโฟมประเภทโพลีเอทีลีน

ต่ำสุด +5 °C / สูงสุด +40 °C

ต่ำสุด +5 °C / สูงสุด +40 °C 
ต่ำสุด +3 °C  เหนืออุณหภูมิจุดน้ำค้าง

พื้นผิวที่จะทำการยาแนวจะต้องสะอาด แห้ง แน่น และปราศจาก คราบน้ำมัน จาระบี  ฝุ่น และเศษปูนที่หลุดล่อนและไม่แข็งแรง

เทคนิคการกำจัดคราบต่างๆ ได้แก่ การขัดด้วยแปรงลวด การเจียด้วย เครื่องขัด การพ่นขัดด้วยเม็ดทราย หรือสามารถใช้เครื่องมือกลอื่นๆ ที่เหมาะสม กรณีรอยต่อบิ่นหรือแตก ให้ซ่อมแซมก่อนด้วย ผลิตภัณฑ์ซิก้าที่เหมาะสม

ถ้าต้องมีการตัดรอยต่อ ทำการตัดและล้างเศษปูนออกให้หมด หลังจากนั้นปล่อยให้พื้นผิวให้แห้ง

ต้องเอาฝุ่นและเศษปูนที่หลุดร่อนออกให้หมดก่อนลงน้ำยากระตุ้นพื้นผิว น้ำยารองพื้น และกาวยาแนว

เพื่อการยึดเกาะที่ดี รอยต่อมีความทนทาน และรอยต่อมีประสิทธิภาพ การใช้งานได้สูง เช่น รอยต่อบนอาคารหลายชั้น รอยต่อที่เน้นเป็นพิเศษ รอยต่อที่ต้องสัมผัสกับสภาพอากาศที่รุนแรง หรือ รอยต่อที่ต้องสัมผัสน้ำ และมีน้ำแช่ขัง ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนการลงสารรองพื้น และ/หรือการเตรียมพื้นผิวก่อนการยาแนวดังต่อไปนี้:

พื้นผิวที่ไม่มีรูพรุน

พื้นผิวประเภทอลูมิเนียม อลูมิเนียมชุบอโนไดซ์ เหล็กสเตนเลส พีวีซี เหล็กชุบกัลวาไนซ์ โลหะผ่านการพ่นเคลือบด้วยสีฝุ่น หรือกระเบื้อง เคลือบผิวหน้า ให้ทำความสะอาด และเตรียมพื้นผิวโดยการทา Sika® Aktivator-205 บนพื้นผิวด้วยผ้าสะอาดก่อนที่จะทำการยาแนว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 15 นาที (ไม่เกิน 6 ชั่วโมง) 

พื้นผิวประเภทโลหะอื่นๆ เช่น ทองแดง ทองเหลือง และไททาเนียม-สังกะสี ต้องทำความสะอาด และเตรียมพื้นผิวโดยการทา Sika® Aktivator-205 บนพื้นผิวด้วยผ้าสะอาด ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นระยะ เวลาอย่างน้อย 15 นาที (ไม่เกิน 6 ชั่วโมง) แล้วจึงรองพื้นด้วย Sika® Primer-3 N โดยใช้แปรงทา ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที (ไม่เกิน 8 ชม.) ก่อนทำการยาแนวรอยต่อ

พื้นผิวประเภทพีวีซี ต้องทำความสะอาด และเตรียมพื้นผิว โดยการทา Sika® Primer-215 บนพื้นผิวด้วยผ้าสะอาดก่อนที่จะทำการยาแนว ปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที (ไม่เกิน 8 ชั่วโมง)  

พื้นผิวที่มีรูพรุน

พื้นผิวประเภทคอนกรีต คอยกรีตมวลเบา ปูนฉาบ มอร์ต้า และอิฐก่อปูนฉาบ ต้องลงสารรองพื้นด้วย Sika® Primer-3 N หรือ Sika® Primer-210 โดยใช้แปรงทา และปล่อยทิ้งไว้ให้สารแห้ง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 30 นาที (ไม่เกิน 8 ชม.) ก่อนทำการยาแนว รอยต่อ ทำการทดสอบการยึดเกาะในโครการพิเศษร่วมกับทุกฝ่ายก่อนทำงานจริง

หมายเหตุ: สารรองพื้นและน้ำยากระตุ้นผิว เป็นสารเร่งการยึดเกาะ ไม่สามารถนำมาใช้ในการทดแทนกรณีทำความสะอาด และเตรียมพื้นผิว ไม่ดี สารรองพื้นยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะของกาวยาแนว ให้ทนทานและยาวนาน กรุณาติดต่อฝ่ายบริการด้านเทคนิคของบริษัทฯ หากต้องการข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม

ส่วนผสมเดียว พร้อมใช้งาน

ทำความสะอาดเครื่องมือทุกชนิด และอุปกรณ์ต่าง ๆ ทันทีด้วย Sika® Remover-208 หากพบวัสดุแข็งติดอยู่กับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ ต้องกำจัดโดยใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น  ทำความสะอาดผิวด้วย Sika® Cleaning Wipes-100