Sikafloor®-263 SL HC
Sikafloor®-263 SL HC เป็นวัสดุแบบสองส่วนประกอบที่มี อีพ็อกซี่เรซินเป็นส่วนประกอบหลัก สามารถนำไปใช้งานได้ อย่างเอนกประสงค์
- สามารถปิดรูพรุนของคอนกรีตได้ดี
- ทนทานต่อสารเคมี และรับแรงทางกลได้ดี
- ใช้งานได้ง่าย
- ของเหลวต่างๆ ไม่สามารถซึมผ่านได้
- พื้นผิวมีความเงางาม
- พื้นผิวมีความสามารถในการป้องกันการลื่นได้
การใช้งาน
Sikafloor®-263 SL HC ใช้สำหรับ:- ระบบเคลือบพื้นผิวที่สามารถปรับระดับได้ด้วยตัวเอง สำหรับเคลือบผิวคอนกรีตและซีเมนต์สกรีตที่อาจจะต้องรองรับ การเสียดสีในระดับปานกลางถึงระดับหนัก เช่น ห้องเก็บของ หอประชุม โรงซ่อมบำรุง อู่ซ่อมรถ ทางลาดที่ต้องรับน้ำหนัก บรรทุกบ่อย หรือโครงสร้างประเภทอื่นๆ
- แนะนำให้ใช้ระบบหว่านโรยด้วยทราย กับพื้นที่ใช้งานในลักษณะดังนี้ ได้แก่ อาคารจอดรถหลายชั้น ลานจอดรถชั้นใต้ดิน โรงเก็บและซ่อมบำรุงเครื่องบิน รวมถึงพื้นที่ที่ต้องทำงานอยู่ใน สภาวะเปียก เช่น โรงงานผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
คุณลักษณะ/คุณประโยชน์
- สามารถปิดรูพรุนของคอนกรีตได้ดี
- ทนทานต่อสารเคมี และรับแรงทางกลได้ดี
- ใช้งานได้ง่าย
- ของเหลวต่างๆ ไม่สามารถซึมผ่านได้
- พื้นผิวมีความเงางาม
- พื้นผิวมีความสามารถในการป้องกันการลื่นได้
บรรจุภัณฑ์
ส่วนประกอบ A: 280 กิโลกรัม ต่อถัง, 15.8 กิโลกรัม ต่อกระป๋อง
ส่วนประกอบ B: 200 กิโลกรัม ต่อถัง, 4.2 กิโลกรัม ต่อกระป๋อง
ส่วนประกอบ A+B: 20 กิโลกรัม ต่อชุด (ส่วนประกอบ A+ ส่วนประกอบ B)
ลักษณะของสินค้า/สี
| ส่วนประกอบ A เรซิ่น: | ของเหลว / มีสี |
| ส่วนประกอบ B ฮาร์ดเดนเนอร์: | ของเหลว / สีใส |
สีมาตรฐาน: RAL 6010, RAL 6029, RAL 7032, RAL 7035, RAL 7040
ผลิตภัณฑ์อาจมีการเปลี่ยนสีหรือมีความแปรปรวนของสีหากสัมผัสกับรังสียูวี (เช่น แสงอาทิตย์ หลอดไฟ ช่องรับแสง และจากช่องทางอื่น) แต่ไม่มีผลต่อการใช้งานและไม่ก่อให้เกิด การเสื่อมลดประสิทธิภาพของสารเคลือบผิว
รายละเอียดผลิตภัณฑ์
การรับรองมาตรฐาน
- ใบรับรองการปล่อยอนุภาค Sikafloor-263 SL HC CSM Statement of Qualification – ISO 14644-1, class 5-ตามรายงานฉบับที่ SI 0904-480 และ GMP class A และเป็นไปตามรายงานฉบับที่ SI 1008- 533
- ใบรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจก Sikafloor-263 SL HC CSM Statement of Qualification – ISO 14644-8, class 6,5 ตามรายงานฉบับที่ SI 0904-480
- มีความสามารถต้านทานทางชีวภาพได้ดี ตามมาตรฐาน ISO 846, ตามรายงาน CSM ฉบับที่ 1008-533
- ได้รับการจำแนกการเกิดอัคคีภัยตามมาตรฐาน EN 13501-1 ตามรายงานฉบับที่ 2007-B-0181/14 ตามห้องปฏิบัติการ MPA Dresden เยอรมนี ตีพิมพ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2007
ส่วนประกอบหลักทางเคมี
อีพ็อกซี่
อายุผลิตภัณฑ์
24 เดือน นับจากวันที่ผลิต
การเก็บรักษา
จัดเก็บอย่างถูกวิธี ภายในบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทและไม่เสียหาย จัดเก็บในบริเวณที่แห้ง ภายใต้อุณหภูมิระหว่าง +18 °C ถึง +30 °C.
ความหนาแน่น
| ส่วนประกอบ A | ~1.50 กิโลกรัม ต่อลิตร |
| ส่วนประกอบ B | ~1.00 กิโลกรัม ต่อลิตร |
| ส่วนผสมเรซิ่น | ~1.43 กิโลกรัม ต่อลิตร |
| เติมเรซิ่น (1:0.8) | ~1.84 กิโลกรัม ต่อลิตร |
(ความหนาแน่นทั้งหมดที่อุณหภูมิ +23 °C)
ปริมาณของแข็งในเนื้อสาร โดยน้ำหนัก
~100 %
ปริมาณของแข็งในเนื้อสาร โดยปริมาตร
~100 %
ค่าความแข็ง Shore D
| ~76 (7 วัน ที่อุณหภูมิ +23 °C) |
ความต้านทานต่อการขูดขีด
| 41 มิลลิกรัม (CS 10/1000/1000) (8 วัน / ที่อุณหภูมิ +23°C) | (DIN 53 109) |
ค่ากำลังรับแรงอัด
| เรซิ่น : ~50.0 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร, เรซิ่น (filled 1:0.9 with F36 (28 วัน) | (EN196-1) |
ค่ากำลังรับแรงดัด
| เรซิ่น: ~20.0 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร, เรซิ่น (filled 1:0.9 with F36 (28 วัน) | (EN 196-1) |
ค่ากำลังรับแรงยึดเกาะต่อแรงดึง
| >1.5 นิวตัน ต่อตารางมิลลิเมตร (ชิ้นเคลือบผิวหลุดจากคอนกรีต) | (ISO 4624) |
ความต้านทานต่ออุณหภูมิ
| การสัมผัส* | Dry heat |
| ตลอดเวลา | +50 °C |
| ระยะสั้นสูงสุด 7 วัน | +80 °C |
| ระยะสั้นสูงสุด 12 ชั่วโมง | +100 °C |
ความชื้นและความร้อนที่สภาวะเปียกในช่วงระยะสั้น อาจมีอุณหภูมิสูงสุดประมาณ 80 °C โดยเกิดได้กับการสัมผัสกับความร้อนเป็นครั้งคราว เช่น การทำความสะอาดพื้นด้วยไอน้ำ เป็นต้น
ความต้านทานต่อสารเคมี
ทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด กรุณาติดต่อแผนกเทคนิค กรณีที่ต้องใช้งานเฉพาะตามที่ต้องการ
การใช้งาน
อัตราส่วนผสม
ส่วนประกอบ A : ส่วนประกอบ B = 79 : 21 (โดยน้ำหนัก)
อุณหภูมิแวดล้อม
ต่ำสุด +10 °C / สูงสุด +30 °C
ค่าความชื้นสัมพัทธ์
ความชื้นสัมพันธ์อากาศสูงสุด 80%
จุดน้ำค้าง
ให้ระวังการเกิดการควบแน่น
พื้นผิวที่ยังบ่มตัวไม่เสร็จจะต้องมีอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้างอย่างน้อย 3°C เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดหยดน้ำหรือจุดด่างบนพื้นผิววัสดุ
หมายเหตุ: อุณหภูมิต่ำและความชื้นสูงเป็นปัจจัยเพิ่มความน่าจะเป็นที่พื้นผิวเกิดรอยด้าน
อุณหภูมิของพื้นผิว
ต่ำสุด +10 °C / สูงสุด +30 °C
ความชื้นของพื้นผิว
< 4 % สัดส่วนโดยน้ำหนัก
วิธีการทดสอบ: มิเตอร์วัดความชื้น Sika® -Tramax, CM หรือ การวัดโดยใช้วิธี Oven-dry method ต้องไม่มีความชื้นขึ้นสะสม (rising moisture) เมื่อคลุมด้วยแผ่นพลาสติก ตามมาตรฐาน ASTM (Polyethylene-sheet) ต้องไม่มีน้ำ ความชื้น การควบแน่นบนพื้นผิว
ระยะเวลาการใช้งานหลังผสม
| อุณหภูมิ | ระยะเวลา |
| +10 °C | ~50 นาที |
| +20 °C | ~25 นาที |
| +30 °C | ~15 นาที |
เวลาการบ่ม
ระยะเวลาในการรอเพื่อเคลือบทับ ก่อนเคลือบ Sikafloor®-263 SL HC บน Sikafloor®-161 HC คือ:
| อุณหภูมิพื้นผิว | ต่ำสุด | สูงสุด |
| +10 °C | 24 ชั่วโมง | 3 วัน |
| +20 °C | 12 ชั่วโมง | 2 วัน |
| +30 °C | 8 ชั่วโมง | 1 วัน |
ระยะเวลาในการรอเพื่อเคลือบทับ ก่อนเคลือบ Sikafloor®-263 SL HC บน Sikafloor®-263 SL HC คือ:
| อุณหภูมิพื้นผิว | ต่ำสุด | สูงสุด |
| +10 °C | 30 ชั่วโมง | 3 วัน |
| +20 °C | 24 ชั่วโมง | 2 วัน |
| +30 °C | 16 ชั่วโมง | 1 วัน |
หมายเหตุ: เวลาเป็นค่าโดยประมาณ และจะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์
ระยะเวลาที่พร้อมใช้งาน
| อุณหภูมิพื้นผิว | เดินได้ | รับน้ำหนักเบา | รับน้ำหนักเต็มที่ |
| +10 °C | ~72 ชั่วโมง | ~6 วัน | ~10 วัน |
| +20 °C | ~24 ชั่วโมง | ~4 วัน | ~7 วัน |
| +30 °C | ~18 ชั่วโมง | ~2 วัน | ~5 วัน |
หมายเหตุ: ค่าที่กำหนดถือเป็นระยะเวลาโดยประมาณ ซึ่งอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามผลการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมโดยเฉพาะอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ที่หน้างาน
ปริมาณการใช้
| ระบบ | ผลิตภัณฑ์ | ปริมาณการใช้ |
| ชั้นรองพื้น | Sikafloor®-161 HC | 1-2 x 0.35 - 0.55 กก./ ตร.ม. |
| ชั้นปรับระดับ (ทางเลือกเสริม) | Sikafloor®-161 HC levelling mortar | อ้างอิงเอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์ Sikafloor®-161 HC |
| งานปรับระดับ (ที่ความหนา ~1. 5 - 3.0 มม.) | 1 ส่วนโดยน้ำหนัก Sikafloor®-263 SL HC 0.8 โดยน้ำหนักทรายควอทซ์ (0.1 - 0.3 มม.) | ~1.84 กก./ ตร.ม. ส่วนผสมทั้งหมด (Sikafloor®-263 SL HC 1.02 กก./ ตร.ม. + ทรายควอทซ์ 0.82 กก./ ตร.ม. ความหนา มิลลิเมตร ต่อชั้น |
| งานปรับระดับ การหว่านโปรยด้วยทราย (ที่ความหนา ~4.0 มม.) | 1 ส่วนโดยน้ำหนัก Sikafloor®-263 SL HC หว่านโปรยด้วยทรายควอทซ์ ท๊อปโคทด้วย Sikafloor®-263 SL HC/-264 HC | 2.00 กก./ ตร.ม. 2.00 กก./ ตร.ม. ~6.0 กก./ ตร.ม. ~0.7 กก./ ตร.ม. |
ค่าดังกล่าวเป็นค่าตามทฤษฎีและไม่รวมกรณีเพิ่มเติมวัสดุใดๆ เนื่องจากความพรุนของพื้นผิว สภาพของพื้นผิว ความผันแปรในแต่ละชั้นและการสูญเสียของผลิตภัณฑ์
การผสม
ก่อนการผสม กวน Part A ก่อนด้วยสว่าน หลังจากนั้น เมื่อเติม Part B ลงใน Part A เรียบร้อยแล้ว ทำการผสมต่อเนื่องไปเป็นเวลา 3 นาที จนส่วนผสมเข้ากันดี
เมื่อส่วนผสม A และ B ผสมกันแล้ว ให้เติมทรายควอทซ์ และในกรณีที่จำเป็น ให้ใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ Sika® Extender T แล้วผสมต่อไปอีก 2 นาที จนได้ส่วนผสมที่มีความสม่ำเสมอ
เพื่อให้แน่ใจ สามารถเทผลิตภัณฑ์ที่ผสมแล้วลงในถังผสมอื่น แล้วผสมซ้ำอีกครั้งเพื่อความเข้ากันอย่างสม่ำเสมอ วิธีการผสมเช่นนี้ จะทำให้ลดการเก็บกักฟองอากาศในผลิตภัณฑ์
อุปกรณ์การผสม
Sikafloor®-263 SL HC ต้องผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึง โดยการผสมด้วยสว่านที่ความเร็วรอบต่ำ (300-400 รอบ/นาที) หรือ เครื่องมืออื่นๆที่เหมาะสม
การใช้งาน
ก่อนทำการติดตั้งผลิตภัณฑ์ ต้องตรวจสอบค่าความชื้นของพื้นคอนกรีต ความชื้นสัมพัทธ์ และ อุณหภูมิจุดน้ำค้าง
ถ้าความชื้นของคอนกรีต มีค่า > 4% อาจต้องใช้ Sikafloor® EpoCem® เป็นระบบกันความชื้นชั่วคราว
การเคลือบชั้นรองพื้น
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าการเคลือบมีความต่อเนื่องและพื้นผิวไม่มีรูพรุน ในกรณีที่จำเป็น ให้ทารองพื้นสองชั้นด้วย Sikafloor®-161 HC โดยใช้แปรง ลูกกลิ้ง หรือยางปาดน้ำ โดยที่แนะนำให้ใช้ยางปาดน้ำ เกลี่ยให้ทั่ว แล้วใช้ลูกกลิ้ง กลิ้งแบบย้อนกลับในทิศทางตามขวาง
การปรับระดับพื้นผิว:
ต้องปรับระดับพื้นผิวที่มีความขรุขระก่อนใช้งานผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ให้ในการปรับระดับพื้นผิวคือ Sikafloor®-161 HC ซึ่งเป็นมอร์ตาร์สำหรับปรับระดับพื้นผิว (สามารถดูเพิ่มเติม ในเอกสารข้อมูลผลิตภัณฑ์)
ชั้นความหนาแบบเรียบ:
เท Sikafloor®-263 SL HC ลงบนพื้น ปาดให้ทั่วด้วยเกรียงฟัน หลังจากเกลี่ยจนทั่วดีแล้วพลิกเกรียงฟัน ใช้ด้านเรียบอีกด้าน ปาดให้ผลิตภัณฑ์มีความเรียบเนียนสวยงามสม่ำเสมอ จากนั้น ใช้ลูกกลิ้งหนาม กลิ้งทันทีทั้ง 2 แนว ทางตรง และด้านขวาง เพื่อให้มีความหนาที่สม่ำเสมอกัน
ระบบหว่านโรยทราย:
เท Sikafloor®-263 SL HC ลงบนพื้น ปาดให้ทั่วด้วยเกียงฟัน จากนั้นใช้ลูกกลิ้งหนามกลิ้งเพื่อปรับระดับให้สม่ำเสมอและไล่ฟองอากาศ และหลังจากนั้นประมาณ 5 นาที (ที่อุณหภูมิ +30°C) แต่ไม่เกิน 10 นาที (ที่อุณหภูมิ +30°C) ให้ทำการหว่านโรยทรายลงไป เริ่มจากบางๆ จนเต็มพื้นที่ตามอัตราส่วนที่แนะนำ
การทำความสะอาดเครื่องมือและอุปกรณ์
ทำความสะอาดเครื่องมือด้วย Sika Thinner C ทันทีหลังเสร็จงาน วัสดุหรือน้ำยาที่แข็งตัวแล้ว สามารถใช้เครื่องมือทางกลเท่านั้น
การทำความสะอาด
เพื่อรักษาความสวยงามของพื้นผิวหลังจากที่ทำการติดตั้งไปแล้ว Sikafloor®-263 SL HC ที่หกรั่วไหล เปรอะเปื้อนต่างๆ จำเป็นต้องรีบกำจัดออกทันที และหมั่นทำความสะอาด ด้วยเครื่องขัดขนอ่อน เครื่องถูพื้น เครื่องถูกพื้นแบบแห้ง น้ำแรงดันสูง หรือการทำความสะอาดด้วยเครื่องล้าง ดูดฝุ่น ตามเทคนิคของแต่ละสถานที่ เป็นต้น