Sikaflex®-730 SMP

ผ่านการทดสอบ ตามมาตรฐาน ASTM C 920

Class 25 / Type S / Grade NS

12 เดือน นับตั้งแต่วันผลิตที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์

เก็บสินค้าในบรรจุภัณฑ์เดิมที่ยังไม่เปิดใช้งาน ในบริเวณที่อากาศแห้งและเย็น
พื้นที่เก็บต้องสามารถป้องกันแสงแดดได้เป็นอย่างดี
และควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ในช่วง 5°C ถึง 25°C

สามารถทนต่อกรดหรือด่างชนิดอ่อนได้ดี

ทนต่อรังสี UV ได้อย่างยอดเยี่ยม

-40°C to +90°C

Sikaflex®-730 SMP สามารถใช้กับรอยต่อที่มีความกว้างระหว่าง 10 ถึง 35 มม.

วัสดุยาแนวนั้นหากมีพื้นที่การยึดติดที่ไม่เหมาะสม อาจเกิดความเครียด (การเปลี่ยนแปลงรูปร่างจากแรงภายนอก) ที่อาจส่งผลให้เกิด ความเสียหายต่อตัวยาแนวเองได้ สำหรับรอยต่อที่มีการเคลื่อนไหวทั้งหมด ควรถูกออกแบบ ให้มีอัตราส่วนความกว้าง ต่อความลึกที่เหมาะสมเท่ากับ 2:1 หรือให้กำหนดความลึกขึ้นต่ำตามแต่กรณี ดังรายละเอียดต่อไปนี้

• ความลึกของรอยต่อใดๆ ควรมีความลึกไม่ต่ำกว่า 5 มิลลิเมตร
• กรณีรอยต่อของวัสดุประเภทโลหะ กระจก หรือพื้นผิวใดๆ ที่ปราศจากรูพรุน ให้กำหนดความลึกขั้นต่ำที่ 5 มิลลิเมตร โดยต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าพื้นผิวเหล่านั้นอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
• กรณีพื้นผิวเป็นวัสดุที่มีรูพรุน ให้กำหนดความลึกขั้นต่ำที่ 8 มิลลิเมตร
• กรณีพื้นผิวเรียบ ไม่มีรูพรุน แต่มีสภาพพื้นผิวที่ไม่สมบูรณ์ ให้กำหนดความลึกขั้นต่ำที่ 8 มิลลิเมตร
• สำหรับรอยต่อในแนวเฉือน ควรมีอัตราส่วนความกว้างต่อความลึกขั้นต่ำเท่ากับ 1:2 และสูงสุดไม่เกิน 1:1

ความจำเป็นของน้ำยารองพื้นหรือ Primer

แม้ว่า Sikaflex -730 SMP จะสามารถยึดติดได้อย่างดีกับ พื้นผิวคอนกรีต, ไม้, โลหะ, เซรามิก, งานก่ออิฐ และพื้นผิวเคลือบสีส่วนใหญ่โดยไม่ต้องใช้น้ำยารองพื้นหรือ Primer แต่สำหรับพื้นผิวบางชนิดอาจมีประสิทธิภาพการยึดติดที่ดีขึ้น หากใช้ร่วมกับ Primer
(กรุณาติดต่อขอคำแนะนำจากฝ่ายบริการเทคนิกของ Sika)

พื้นผิวของรอยต่อต้องสะอาดและแห้ง ต้องทำความสะอาดกำจัดสิ่งสกปรก ขัดพื้นผิวหรือวัสดุเคลือบเก่าที่หลุดร่อนออกจนถึงชั้นผิววัสดุที่มีความแข็งแรง

• กรณีพื้นผิวเป็นโลหะ ให้กำจัดสิ่งสกปรกทั้งหมด, กำจัดสนิม, ขัดลอกวัสดุ เคลือบผิวเช่น แล็กเกอร์ คราบน้ำมัน จาระบี และทำให้พื้นผิวสะอาดที่สุด
• พื้นผิวที่มีรูพรุนมาก สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดและเสริม แรงยึดเกาะด้วยน้ำยา Sika Primer -3N
• ในทุกรอยต่อนั้น ต้องใช้สารป้องกัน การเชื่อมติด (bond breaker) หรือโฟมเส้น (Baking Rod) เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวกาวยาแนวไปสัมผัส และยึดติดกับพื้นผิวด้านหลัง ของรอยต่อ ซึ่งจะทำให้ประสิทธิภาพของยาแนวลดลง อย่างมีนัยสำคัญ และ เพื่อพยุงวัสดุยาแนวที่ได้ยึดติดกับผนังรอยต่อทั้งสองด้านแล้วนั้น ให้มีประสิทธิภาพ การยึดเกาะและการยืดหยุ่นตัวที่ดีที่สุด  
  สำหรับรอยต่อที่ค่อนข้างตื้น สามารถใช้เทปกาวโพลีเอทิลีนแปะทับผนังด้านหลัง ของรอยต่อ เพื่อทำหน้าที่ เป็น bond breaker ได้ ส่วนข้อต่อที่มีความลึก ควรใช้วัสดุโฟมเส้นหรือ Backer Rod ที่มีความหนาเหมาะสม จะช่วยให้ใช้งานง่าย และพยุงตัวยาแนวได้ดี

ทำความสะอาดเครื่องมือหลังใช้งานทันที ด้วยสารละลายสำหรับทำความสะอาด เช่น ทินเนเอร์