04/04/2025
งานเกร้าท์ งานซ่อมแซมคอนกรีต

ความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งกับส่วนที่เป็นโครงสร้างของอาคาร และส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง โดยการจำแนกความเสียหายเหล่านี้มีความสำคัญต่อการประเมินความเสียหาย และการกำหนดแนวทางการซ่อมแซมที่เหมาะสม

Earthquake

การจำแนกความเสียหายที่เกิดขึ้นบนส่วนที่เป็นโครงสร้าง และส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้างอาคาร

ความเสียหายโครงสร้างอาคารจากแผ่นดินไหว หากความเสียหายเกิดขึ้นกับส่วนที่เป็น ฐานราก เสา คาน หรือผนังรับน้ำหนัก
จะถือว่าอาคารได้รับผลกระทบมาก และต้องรีบดำเนินการตรวจสอบและซ่อมแซมโดยผู้เชี่ยวชาญ

ในทางกลับกัน หากความเสียหายเกิดขึ้นกับส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง เช่น ฝ้าเพดาน ผนังกั้นห้อง หรือวัสดุตกแต่งผิวภายใน
แม้จะส่งผลกระทบต่อการใช้งานหรือความสวยงาม ถือว่าความเสียหายอยู่ในระดับที่กระทบต่ออาคารน้อย

Earhquake

ดาวน์โหลดแนวทางซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีตหลังแผ่นดินไหว

ชิ้นส่วนของอาคาร ที่ถือว่าเป็นส่วนของโครงสร้าง

  • ฐานราก (Foundation) – รองรับน้ำหนักอาคารและถ่ายแรงลงสู่ดิน
  • เสา (Column) – รับแรงกดจากคานและพื้นถ่ายลงฐานราก
  • คาน (Beam) – รองรับและถ่ายแรงจากพื้นและผนังไปยังเสา
  • พื้น (Slab/Floor) – รองรับน้ำหนักการใช้งานและอุปกรณ์ต่างๆ
  • ผนังรับน้ำหนัก (Load Bearing Wall) – รับและถ่ายน้ำหนักจากโครงสร้างชั้นบนลงสู่ฐานราก

ชิ้นส่วนของอาคาร ที่ไม่ใช่ส่วนของโครงสร้าง

  • ผนังแบ่งพื้นที่ (Partition Wall) – ผนังที่ใช้กั้นห้อง แต่ไม่ได้รับน้ำหนักของอาคาร
  • ฝ้าเพดาน (Ceiling) – ใช้เพื่อความสวยงามและปิดงานระบบ ไม่รับแรงจากโครงสร้าง
  • วงกบประตู-หน้าต่าง (Door & Window Frames) – ช่วยยึดประตูและหน้าต่าง แต่ไม่มีผลต่อความแข็งแรงของอาคาร
  • ประตูและหน้าต่าง (Doors & Windows) – มีหน้าที่เปิด-ปิดพื้นที่ แต่ไม่ได้ช่วยรองรับน้ำหนักอาคาร
  • วัสดุปูพื้น (Floor Finishings) – เช่น กระเบื้อง ไม้ปูพื้น พรม มีผลต่อความสวยงามมากกว่าความแข็งแรง
  • หลังคาครอบ (Roof Tiles or Metal Sheets) – วัสดุมุงหลังคาที่ช่วยกันแดดกันฝน แต่ไม่ได้เป็นส่วนโครงสร้างหลัก

ขั้นตอนการซ่อมแซม

MAN

ตรวจสอบความเสียหาย
รวบรวมข้อมูลความเสียหาย ตรวจสอบรอยร้าวอาคาร ระบุรายละเอียดของรอยแตกร้าวขนาดความกว้าง ความลึก ความยาว จำนวนและตำแหน่งที่เกิดความเสียหาย รวมถึงการจำแนกระหว่างส่วนที่เป็นโครงสร้าง และส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง
 
วิเคราะห์สาเหตุ
พิจารณาหาสาเหตุ ความเป็นไปได้ต่างๆ ที่ทำให้โครงสร้างคอนกรีตได้รับความเสียหาย เช่น เกิดจากแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว แรงดึง แรงดัด แรงกดอัดหรือ แรงเฉือน 

เลือก / กำหนด วัสดุซ่อม
ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย

ลงมือซ่อม
เป็นไปตามรูปแบบ วิธีซ่อมแซมอาคารหลังแผ่นดินไหว หรือข้อกำหนดที่ได้ออกแบบและวางแผนไว้

ป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายซ้ำ
นอกจากการซ่อมแซมโครงสร้างหลังแผ่นดินไหว ควรต้องพิจารณาจากสาเหตุที่ทำให้เกิดความเสียหาย และออกแบบป้องกันหรือลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเสียหายได้อีก

 

*ข้อมูลจาก: สมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย, กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย

แนวทางการซ่อมแซม แบ่งตามระดับความเสียหาย

ระบบกันซึมห้องน้ำ
Crack05

ระดับ 1

ไม่มีการแตกร้าวบนส่วนที่เป็นโครงสร้าง

ขนาดของรอยร้าว ไม่พบรอยแตกร้าว

ขนาดของรอยร้าว: ไม่พบรอยแตกร้าว
(อาจมีความเสียหายบนส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง เช่นผนังแตกร้าว)

แนวทาง: ไม่มีการซ่อมชิ้นส่วนโครงสร้าง

 

Crack03

ระดับ 2

แตกร้าว แต่คอนกรีตไม่กะเทาะ
ขนาดของรอยร้าว: 0.3 มม. ถึง 2.0 มม.

สำหรับรอยร้าวลึกและต่อเนื่อง

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการฉีดอัดอีพ็อกซี่เรซิ่น ที่มีค่าการรับกำลังทางกลสูง

วัสดุที่ใช้ซ่อม:
Sikadur -52 TH และ
Sikadur -31 CF Normal

 

สำหรับรอยร้าวที่ไม่ลึกมาก ตั้งแต่ 1-10 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการฉาบซ่อมด้วยอีพ็อกซี่มอร์ตาร์ ที่มีค่าการรับกำลังทางกลสูง

วัสดุที่ใช้ซ่อม:
Sikadur-31 CF Normal

Crack04

ระดับ 3

แตกร้าว จนคอนกรีตกะเทาะ แต่ยังไม่เห็นเหล็กเสริม (หรืออาจเห็นผิวเหล็กเสริมเพียงเล็กน้อย-บางส่วน)

สำหรับรอยร้าวที่ไม่ลึกมาก ตั้งแต่ 1-10 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการฉาบซ่อม
วัสดุที่ใช้ซ่อม:
Sikadur -31 CF Normal

สำหรับรอยแตกร้าวที่มีความลึกเกินกว่า 10 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการฉาบซ่อม
วัสดุที่ใช้ซ่อม: 
Sikadur -32 TH และ
SikaMonoTop-412 TH หรือ
Lanko 731 

สำหรับรอยแตกร้าวที่มีขนาดใหญ่และลึก ตั้งแต่ 10-70 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการเข้าแบบ และเทวัสดุนอนชริงค์เกราท์
วัสดุที่ใช้ซ่อม:
Sikadur-32 TH และ
SikaGrout -214-11 TH 

Crack11

ระดับ 4

คอนกรีตกะเทาะหลุด จนเห็นเหล็กเสริมด้านใน แต่เหล็กเสริมไม่มีการขาด บิด งอ เสียรูป (ต้องได้รับการตรวจสอบโดยวิศวกรโครงสร้าง)

สำหรับรอยร้าวที่ไม่ลึกมาก ตั้งแต่ 1-10 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการฉาบซ่อม
วัสดุที่ใช้ซ่อม:
Sikadur -31 CF Normal

สำหรับรอยแตกร้าวที่มีความลึกเกินกว่า 10 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการฉาบซ่อม
วัสดุที่ใช้ซ่อม: 
Sikadur -32 TH และ
SikaMonoTop-412 TH หรือ
Lanko 731 

สำหรับรอยแตกร้าวที่มีขนาดใหญ่และลึก ตั้งแต่ 10-70 มม.

แนวทาง:
ซ่อมด้วยวิธีการเข้าแบบ และเทวัสดุนอนชริงค์เกราท์
วัสดุที่ใช้ซ่อม:
Sikadur-32 TH และ
SikaGrout -214-11 TH 

Crack10

ระดับ 4

กรณีที่คอนกรีตกะเทาะหลุด เห็นเหล็กเสริมด้านใน ขาด บิด งอ หรือเสียรูป

  • ต้องมีวิศวกรโครงสร้างมาตรวจสอบ และออกแบบวิธีการซ่อมแซมตามมาตรฐาน เพื่อให้ชิ้นส่วนโครงสร้างที่ได้รับความเสียหาย สามารถกลับมา รับกำลังทางกลต่างๆ ได้เหมือนเดิม
  • ซึ่งโดยทั่วไป อาจมีแนวทางการซ่อมคล้ายคลึงกับการแก้ไขซ่อมแซมในระดับ 3 แต่อาจพิจารณาการเสริมกำลังโครงสร้างเพิ่มขึ้นมาด้วย
  • การเสริมกำลังโครงสร้าง ทำได้หลายวิธี โดยการเสริมกำลังโครงสร้างด้วยวัสดุ CFRP (Carbon Fiber Reinforced Polymer) ซึ่งเป็นหนึ่งในทางเลือกที่มีประสิทธิภาพ และถูกนำมาใช้ในปัจจุบัน ทั้งนี้ จะต้องได้รับการออกแบบและคำนวณโดยวิศวกรโครงสร้าง ที่มีความเชี่ยวชาญโดยเฉพาะ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >>งานเสริมกำลังโครงสร้าง
     

>>ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจากซิก้า

ข้อควรรู้

  • รอยร้าวขนาดเล็ก ถึงแม้จะไม่รุนแรงแต่ควรทำการซ่อมแซมเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นเข้าไปทำให้เหล็กเสริมเกิดสนิม สร้างความเสียหายให้คอนกรีต
  • วัสดุประสานคอนกรีต ควรเป็นอีพ็อกซี่ 2 ส่วนผสมที่ได้มาตรฐาน  ASTM C 881-78 Type II, Grade 2 Class B+C เท่านั้น
  • วัสดุที่ใช้ในการฉาบหรือเทซ่อม ต้องทำในขณะที่วัสดุประสานยังคงเปียกอยู่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการซ่อมแซมต้องมีค่ารับกำลังทางกลต่างๆไม่น้อยกว่าค่าเดิมของอาคาร

ดาวน์โหลดแนวทางซ่อมแซมโครงสร้างคอนกรีตหลังแผ่นดินไหว